:: ประโยชน์อะไรที่จะเสียใจย้อนหลัง :::

::: ประโยชน์อะไรที่จะเสียใจย้อนหลัง :::

“หลายปีก่อน พี่เคยโกรธจนไม่คุยกับมันนานหกเดือนเพราะเรื่องงี่เง่าไม่เป็นเรื่อง พอวันนี้มันลาออกพี่ใจหายมาก พี่นึกย้อนกลับไปวันนั้นแล้วพี่เสียดายเวลาหกเดือนที่พี่ทิ้งไปเฉยๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พี่จะไม่ทำแบบนั้น…สิบห้าปีที่ทำงานและเป็นเพื่อนกันมา พี่เจอหน้ามันมากกว่าเจอหน้าน้องในไส้อีก” พี่คนหนึ่งในออฟฟิศเล่าเสียงเครือน้ำตาคลอหน่วย ระหว่างระบายความรู้สึกให้ฉันฟังหลังรู้ว่าเพื่อนรักลาออก

ข้อความข้างบนรบกวนจิตใจฉันตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

แปลกดี, ธรรมชาติสอนให้เราปล่อยวางแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เราผูกพันกันเหลือเกิน ก่อนจะจับเราเหวี่ยงโยนไปมาในโลกแห่งความสัมพันธ์อันซับซ้อน จนกระทั่งบางคู่ไม่เหลือเยื่อใยใดๆให้แก่กัน ราวกับว่าสิ่งดีๆไม่เคยเกิดขึ้นจริง…

คนบางคนกลายมาเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตอีกคนโดยที่เขาไม่รู้ตัว ในขณะที่คนบางคนทำลายใครอีกคนให้ค่อยๆแตกสลายจากภายในจนแทบไม่มีชิ้นดีโดยอาศัยความไว้ใจเป็นเครื่องมือ ก่อนจะขยี้ทำลายด้วยการเล่นเกมอารมณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราทำเรื่องงี่เง่าไร้สาระ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เล่นเกมอารมณ์จนคนรอบตัวเหนื่อยใจ จนมิตรภาพแหลกสลายเกินเยียวยา แล้วมานึกเสียดายย้อนหลัง, ตอนทำทำไมไม่คิดใคร่ครวญให้ดีว่ามันจะส่งผลกระทบยังไงกับใครบ้าง

ถ้าผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว ก็อย่ามาเสียใจเมื่อสาย มันไร้ประโยชน์

ใช่ว่าทุกอย่างจะซ่อมแซมได้เสียเมื่อไหร่ โดยเฉพาะความไว้ใจและความสัมพันธ์ที่เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างในโลกที่โคตรเปราะบาง พังง่าย

ความพิเศษอย่างหนึ่งของ “ความไว้ใจ” คือเราไม่อาจมอบให้กับทุกคนได้ มีแค่บางคนที่เรายินดีวางไว้ในมือเขา เพราะรักเราจึงไว้ใจ แต่เมื่อมันถูกทำลาย ก็ยากที่จะเรียกคืนกลับมาในสภาพเดิม

ความไว้ใจก็คล้ายแก้ว ร้าวแล้วซ่อมยาก แม้ซ่อมแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เราก็ต้องใช้แบบระแวดระวังและ…ระแวง

ระแวงแก้วแตก แล้วเศษแก้วจะทิ่มมือทิ่มปากเมื่อเผลอ ระแวงว่าเศษความไว้ใจจะทิ่มแทงใจให้จุกเจ็บจนแทบแดดิ้นอีกครั้ง

บางทีเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ถูกคนกันเองหลอกลวงหรือเล่นเกมอารมณ์ด้วย

แต่เรารู้สึกแย่ที่เราไม่อาจไว้ใจคนคนนั้นได้อีกต่อไปต่างหาก…

เครดิตภาพ: อินเทอร์เน็ต

You might also like More from author