Joy :: พลังบวกจากคนใกล้ตัวช่วยต่อลมหายใจให้เราได้ ::

::: พลังบวกจากคนใกล้ตัวช่วยต่อลมหายใจให้เราได้ :::

ดีใจที่ไม่ได้คาดหวังก่อนตีตั๋วดูหนังเรื่อง Joy: จอย เธอสู้เพื่อฝัน จึงแฮปปี้กับหนังระดับ B+, นี่เป็นหนึ่งในหนังที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี

Joy สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงของจอย แมงกาโน ชะนีสู้ชีวิตเจ้าของไอเดียไม้ถูพื้นมหัศจรรย์ชาวอเมริกันที่โด่งดังและร่ำรวย แต่กว่าจะได้นอนบนกองเงินกองทองอย่างทุกวันนี้ชีวิตเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ชีวิตจอยแม่งบัดซบตั้งแต่เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง แม่เอาแต่นอนหมกตัวอยู่ในห้องเสพละครน้ำเน่าทั้งวันทั้งคืน, พ่อเจ้าชู้ผู้กลับมาเป็นภาระหลังเลิกกับเมียใหม่, ผัวเก่าผู้ไม่เป็นโล้เป็นพายที่กลับมาขออาศัยนอนในห้องใต้ดิน, พี่สาวต่างแม่ที่คอยอิจฉาและขัดแข้งขัดขาเมื่อสบช่อง

ดีที่โชคยังเข้าข้างจอยอยู่บ้างที่มีลูกน้อย 2 คนคอยเป็นยาชูใจ, เพื่อนรักที่ไม่เคยปล่อยมือให้จอยโดดเดี่ยว และยายผู้คอยกระตุ้นให้จอยเชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อว่าเราทำได้ทุกอย่างถ้ามุ่งมั่นและไม่ย่อท้อ — ยายเป็นลมใต้ปีกของจอยอย่างแท้จริง

บรรยากาศโดยรวมของหนังเรื่องนี้วายป่วงคล้าย Silver Lining Playbook เพราะทั้งผู้กำกับและนักแสดงหลักเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ส่งให้หนังดูสนุกและลื่นไหล สำหรับเจนลอว์ที่ได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงก็เล่นได้ดีตามมาตรฐาน ส่วนตัวคิดว่าบทในเรื่องนี้มีมิติกว่าเรื่อง Silver Linings Playbook ที่นางเคยคว้าออสการ์ไปกอดเมื่อหลายปีก่อน, แต่ถ้าเทียบกับคนอื่นๆก็ยังไม่เด่นเด้งหรอกนะ

ชอบภาพรวมของหนังที่แม้จะมีกลิ่นอายดราม่านิดๆ คอเมดี้หน่อยๆ ฟุ้งฝันบ้างบางที แต่ก็ไม่ลืมดึงสติเราให้กลับมาอยู่กับโลกความจริงที่ทำออกมาได้โคตร real ว่า ชีวิตแม่งก็เป็นแบบนี้แหละ มีขึ้นมีลง บทจะบัดซบแม่งก็ไม่ปรานีปราศรัย บางทีบททดสอบแม่งก็ดาหน้ามารัวๆจนตั้งตัวไม่ติด, คล้ายโชคชะตาตะโกนใส่หน้าเราดังๆว่า

“มึงเกิดมาแล้ว หน้าที่มึงคือตั้งรับและไม่ยอมแพ้ มึงต้องลุกขึ้นสู้กับปัญหาสิ ปัญหานี้หมดไปเดี๋ยวปัญหาใหม่แม่งก็เข้ามาอีกเรื่อยๆแหละโว้ย!” — ตราบใดที่ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปจนลมหายใจสุดท้ายอ้ะ ชีวิตก็เท่านี้

สำหรับใครที่อยากได้แรงบันดาลหนังเรื่องนี้มีให้จนล้นเลยละ แต่ฉันประทับใจประเด็น “พลังบวกจากคนใกล้ตัว” เป็นพิเศษ ซึ่งหนังทำออกมาได้ดีถึงดีมาก ในเรื่องจอยเผชิญหน้ากับปัญหาหลายครั้ง ซวนเซหลายหน ล้มลุกคลุกคลานจนเราเหนื่อยแทน คนรอบตัวอย่างพ่อ, แม่, พี่สาว แทนที่จะเป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือกลับเป็นภาระและ “พลังลบอย่างร้ายกาจ” ทั้งการกระทำและคำพูดบั่นทอนสารพัด

นอกจากเลือดนักสู้ที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จอยลุกขึ้นมายืนหยัดได้ใหม่คือ “พลังบวก” จากคนไม่กี่คนที่จอยรักและรักจอย ไม่ว่าจะยายผู้เชื่อมั่นในตัวเธอและกระตุ้นให้เธอไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร, ลูกที่มองว่าเธอคือยอดหญิง,ผัวเก่าที่เมื่ออยู่ในฐานะเพื่อนกลับเป็นมิตรแท้ที่คอยช่วยเหลือเธออย่างดี และเพื่อนสนิทวัยเด็กผู้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่จอยทั้งในวันที่สุขสุดๆและทุกข์เจียนล้มละลายทางจิตวิญญาณ (หลังจากล้มละลายทางการเงิน)

เราทุกคนก็ไม่ต่างจากจอย ต่อให้เข้มแข็งดังภูผา เชิดหน้าว่าไม่แคร์โลก แต่ชีวิตเราไม่ได้ดำเนินไปในจังหวะราบรื่นเสมอไป, หรือใครเถียง

ในวันที่ถูกโชคชะตาโบยตีจนอ่อนแอและซวนเซ เรายังจะต้องการอะไรมากไปกว่ามิตรแท้จากคนใกล้ตัวอีกล่ะหรือ

You might also like More from author