เจ้าชายน้อย :: สอนให้เราผูกพันและปล่อยวางในคราเดียว ::

::: เจ้าชายน้อยสอนให้เราผูกพันและปล่อยวางในคราเดียว :::

นานแล้วที่ฉันไม่ได้นั่งดูหนังแล้วเห็นภาพตัวเองล้อไปกับเนื้อเรื่องแบบที่แอนิเมชันเรื่องเจ้าชายน้อย (The Little Prince) ทำให้ฉันรู้สึก, นอกจาก Inside out แล้ว นี่คือแอนิเมชันสำหรับผู้ใหญ่โดยแท้ — ใช่, เนื้อเรื่องมันกระทบใจจนฉันน้ำตาไหลเป็นระยะ
12189714_10206947528198169_1108985662160483290_n
เจ้าชายน้อยดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดังของฝรั่งเศสซึ่งเป็นขวัญใจนักอ่านทั่วโลก ร้อยเรื่องเข้ากับเนื้อหาที่แต่งขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน โดยเล่าเรื่องของเด็กหญิงตัวน้อยที่ต้องทำตามคำสั่งและตารางชีวิตที่แม่กำหนดให้เพื่อที่จะสอบเข้าโรงเรียนระดับท็อป จะได้จบออกไปทำงานดีๆ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จตามมาตรฐานที่สังคมบอกว่า “ดี” แต่แม่ไม่เคยถามเธอเลยว่าจริงๆแล้วเธออยากทำอะไรหรืออยากเป็นอะไร

จนกระทั่งเด็กหญิงได้เจอกับคุณตาข้างบ้าน ประตูของโลกใบใหม่ก็เปิดอ้าต้อนรับเธอ เขาสอนให้เธอรู้จักชีวิตและหัดฟังเสียงหัวใจตัวเองผ่านเรื่องเล่าของเจ้าชายน้อยที่เขาเคยเจอที่ทะเลทรายอันไกลโพ้นตอนเป็นนักบินเมื่อสมัยยังหนุ่ม, เรื่องราวของเจ้าชายน้อยและเด็กหญิงตัวจ้อยจึงเริ่มต้นขึ้น และร้อยเรียงสอดประสานได้อย่างกลมกลืนชนิดที่แม้คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็ดูสนุก

ก่อนอื่นต้องขอชมทีมผู้สร้างที่ไอเดียบรรเจิดมากกับการนำเนื้อหาในหนังสือมาร้อยเรียงเข้ากับเนื้อหาที่แต่งขึ้นใหม่พร้อมตัวละครใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงคนดูได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ใจความสำคัญและตัวละครหลักในหนังสือยังอยู่ครบ ทั้งเจ้าชายน้อย ดาวดวงที่ B612 พระราชา นักธุรกิจ คนหลงตัวเอง ดอกกุหลาบ งู และสุนัขจิ้งจอก บวกกับเทคการนำเสนอภาพพาร์ตของเจ้าชายน้อยแบบสต็อปโมชั่นสลับกับภาพการ์ตูนสามมิติในพาร์ตของเด็กหญิง, คือภาพเนียนสวยและเพลินตามาก

หนังไม่ลืมแก่นที่หนังสือต้องการสื่อ นั่นคือพวกผู้ใหญ่มักเห็นทุกอย่างเป็นตัวเลขและผลประโยชน์ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง บ้าอำนาจ เจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อน และชอบขีดเส้นชีวิตให้เด็กเดินตามโดยไม่ถามความสมัครใจ ราวกับจะลืมว่าครั้งหนึ่งตัวเองก็เคยเป็นเด็กมาก่อน

นอกจากประโยคคำคมสะกิดใจที่ใครๆก็ชอบอย่าง “สิ่งสำคัญบางอย่างไม่อาจมองเห็นด้วยตาแต่สัมผัสได้ด้วยใจ” และ “การเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่การลืมว่าเราเคยเป็นใครต่างหากที่น่ากลัว” แล้ว เจ้าชายน้อยยังเสียดสีสถาบันครอบครัวแบบพ่อแม่เป็นใหญ่ ระบบการศึกษาที่ยึดเอาความเป็นที่หนึ่งนำ สังคมภาพรวมที่เชิดชูคนรวยและมีหน้ามีตา และความเป็นมนุษย์ในตัวเรา พร้อมตั้งคำถามกับเรากลายๆว่า การตะบี้ตะบันแก่งแย่งแข่งขันกันเข้าเรียนในสถาบันชื่อดัง เข้าทำงานบริษัทยักษ์ใหญ่ มันจะเป็นตัวรับประกันได้จริงๆหรือว่าเราจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้ใหญ่ที่ดีหรือเป็นคนที่ดี

เหตุใดเราจึงไม่ใช้จ่ายเวลาในแต่ละช่วงวัยของชีวิตให้คุ้มค่า เพื่อผิดพลาด เพื่อเรียนรู้ และเพื่อเติบโตตามวัย ความเป็นเด็กจำเป็นต้องอยู่ในร่างของเด็กเท่านั้นน่ะหรือ ทำไมเราจะเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็กไม่ได้, ฉันว่าในยุคนี้นี่แหละที่เราต้องคงความเป็นเด็กไว้ให้มาก ไม่อย่างนั้นเราจะถูกกลืนเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับสังคมจอมปลอมที่มีแต่ผู้ใหญ่เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัว — ไม่แน่ว่ารู้ตัวอีกทีเราอาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคยตั้งปณิธานไว้ว่า “จะไม่เป็นผู้ใหญ่แบบนี้เด็ดขาด” ก็ได้, ใครจะรู้

หนังสอนเราหลายอย่าง แต่ฉันชอบประเด็นเรื่องความสัมพันธ์มากเป็นพิเศษ เพราะฉันมักมีปัญหากับคนที่วนเวียนในชีวิต ในหนังมีประเด็นนี้ชัดเจน ทั้งความรักของเจ้าชายน้อยกับดอกกุหลาบที่เปรียบเหมือนความรักของหนุ่มสาว หนังบอกกับเราว่ารักอย่างเดียวไม่อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ยืนยาว แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ ไถ่ถาม และโอบกอดเพื่อปลอบประโลมยามที่ถูกทุกข์ถาโถม

แต่ที่ฉันชอบมากที่สุดคือความสัมพันธ์ของเจ้าชายน้อยกับสุนัขจิ้งจอกที่เริ่มด้วยการเป็นคนแปลกหน้าระหว่างกัน จนเมื่อเริ่มคุ้นเคยสนิทสนมทั้งคู่ก็เหมือนจะแยกจากกันไม่ได้ คล้ายเป็นโลกทั้งใบของกันและกัน — เราทุกคนต่างมีคนที่เรารักและอยากใช้ชีวิตไปด้วยกันนานๆ, ตลอดกาลได้ยิ่งดี

แต่ในโลกนี้มีอะไรแน่นอนบ้าง บางครั้งธรรมชาติก็ซับซ้อนเข้าใจยาก ในขณะที่มันสอนให้เราผูกพันกับอะไรบางอย่าง มันก็บอกแกมบังคับให้เราปล่อยวาง แล้วการปล่อยวางประเภทไหนบ้างที่ไม่ต้องแลกกับความเจ็บปวด, โดยเฉพาะปล่อยวางจากสิ่งที่เรารักและคนที่เรารัก

หรือว่ามี แต่ฉันไม่เห็นเอง…

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author