“ชีวิตก็เหมือนการใส่อวัยวะเทียม มันต้องปวดตรงไหนสักแห่งเสมอ”

นี่คือความตอนหนึ่งที่ เลนา มาเรีย เขียนไว้ในหนังสือ “คว้าฝันสุดปลายเท้า (Dare to Dream)” ผลงานเล่มที่สองของเธอต่อจาก “บันทึกจากปลายเท้า (Footnotes)” ที่เขียนเมื่อ 17 ปีที่แล้วที่เธอเล่าถึงประวัติของตัวเอง มาเล่มนี้เธอเขียนถึงการเดินตามความฝันภายใต้ข้อจำกัดของร่างกายที่ไร้แขนขาทั้งสองข้างและมีขาซ้ายยาวกว่าขาขวาแค่ครึ่งเดียว

“ฉันไม่เคยอับอายเรื่องร่างกาย แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันสวยงามฉันแค่ยอมรับมันในแบบที่เป็น”

ในวันวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกินครึ่งชีวิต เลนาเจอมาหมดแล้วทั้งสายตาตั้งคำถามและดูแคลนจากคนทั่วไป คำพูดบาดจิตทั้งที่คนพูดเผลอไผลและตั้งใจให้กระทบ เธอผ่านการหย่าร้างที่ทำให้ชีวิตซวนเซเป๋ไปพักใหญ่ โชคดีที่เธอมีครอบครัวและมิตรแท้คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเสนอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ “ใจ” และ “ทัศนคิตเชิงบวก” ของเธอล้วนๆ ที่ทำให้เธอยืนหยัดอย่างเข้มแข็งและเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น

เลนาพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กเพราะไม่อยากเป็นภาระให้คนรอบข้าง เธอไม่อยากให้ใครมองอย่างสมเพชเพียงเพราะเธอไร้แขนขา ถ้าไม่นับกิจกรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างแต่งตัว กินข้าว และอื่นๆ เลนาวาดภาพ ว่ายน้ำ และขับรถได้ด้วย ครั้งหนึ่งเคยมีคนเป็นห่วงเธอขณะกำลังจะกินอาหารเพราะกลัวเธอใช้ช้อนไม่ถนัด แต่รู้ไหมว่าเธอใช้เท้าคีบตะเกียบเก่งกว่าคนมีมือเสียอีก

เลนายินดีล้มนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อให้ความล้มเหลวเหล่านั้นหล่อหลอมให้เธอลุกขึ้นมาพร้อมรอยแผลและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น เธอเขียนข้อความตอนหนึ่งว่า

“มีหลายอย่างในชีวิตที่ไม่เป็นอย่างหวัง มีความฝันมากมายที่ไม่มีวันเป็นจริง…เราไม่มีวันได้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่เราเลือกใช้สิ่งที่มีอย่างเต็มที่ได้”

จากการเคี่ยวกรำและพัฒนาตัวเองอย่างหนักเสมอมา ทำให้เลนาประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิกและนักร้องชื่อดังของสวีเดนที่เดินทางแสดงคอนเสิร์ตเพื่อให้กำลังใจคนมาแล้วทั่วโลกทั้งพิการและครบสามสิบสอง ด้วยขา “ข้างเดียว” ของเธอ

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกำลังใจ แรงบันดาลใจ หรือแม้กระทั่งคำแนะนำประสาเพื่อนร่วมโลกในการประคับประคองชีวิตยามที่หลายอย่างไม่เป็นอย่างใจ

ใครกำลังท้อแท้แนะนำเล่มนี้ค่ะ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ