ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว

:: อย่าปล่อยให้ความเคยชินมาฉกชิงความใส่ใจ :::

“ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว (If cat disappeared from the world)” นวนิยายแปลญี่ปุ่น ของสำนักพิมพ์ Max Publishing เป็นเรื่องราวของบุรุษไปรษณีย์หนุ่มวัย 30 ปีที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งมีปีศาจโผล่เข้ามาในชีวิตและยื่นข้อเสนอให้เขาสละสิ่งต่างๆในชีวิตทีละอย่างเพื่อแลกกับการต่อลมหายใจเพิ่มไปทีละวัน ตั้งแต่โทรศัพท์, หนัง, นาฬิกา และแมว — ในขณะที่ของแต่ละอย่างค่อยๆหายไป เขาก็ได้ทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต

นวนิยายเรื่องนี้เล่าเรื่องด้วยภาษาง่ายๆแต่กระทบใจ แถมเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ผู้เขียนไม่แม้แต่จะพยายามยัดเยียดดรามาเพื่อบดขยี้อารมณ์เราให้กระเจิดกระเจิง ทั้งที่ประเด็นโรคมะเร็ง ความโดดเดี่ยว ความสูญเสีย และความตายมันเอื้อให้ทำแบบนั้น เขากลับเลือกนำเสนอในโทนสดใสและเรียบง่าย แต่นั่นกลับทำให้ฉันน้ำตาคลอกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น, บางฉากน้ำตาฉันก็ไหลเพราะเห็นเงาตัวเองซ้อนทับอยู่ในชีวิตตัวละคร

โทรศัพท์, หนัง, นาฬิกา และแมวในเรื่องเป็นแค่ตัวอย่างที่นักเขียนยกขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ของความรักความผูกพัน ซึ่งในชีวิตเราอาจหมายถึงสิ่งอื่นๆ เช่น พ่อแม่ เพื่อน คนรัก ฯลฯ หนังตั้งคำถามกลายๆว่าตอนที่ยังอยู่ด้วยกันเราเคยทำอะไรเพื่อเขาเหล่านั้นหรือไม่ ทำเต็มที่แล้วหรือยัง เราเคยเงยหน้าเพื่อพูดคุยหรือสบตากันแล้วจ้องลงไปข้างในหรือเปล่า

ไม่ใช่แค่พระเอกหรอก ฉันเองก็เป็นบ่อยๆ และเชื่อว่าคนอื่นก็คงเป็น, เวลาเราอยู่กับใครหรืออะไรนานๆ เรามักจะปล่อยให้ความเคยชินมาเป็นข้ออ้างในการละเลยความสัมพันธ์ เพิกเฉยที่จะใส่ใจคนใกล้ตัวหรือของบางอย่างเหมือนวันแรกๆที่รับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต จนเมื่อวันที่เราสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไปนั่นแหละ เราถึงนึกขึ้นได้ว่ามันสำคัญขนาดไหน

นี่คือนวนิยายที่แสนเรียบง่ายแต่กระทุ้งเราแรงๆให้ตระหนักถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ว่าเราควรอยู่ไปวันๆโดยยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรืออยู่โดยใช้เวลาแต่นาทีให้คุ้มค่ากับคนที่เรารักและรักเราจริงๆ

เมื่อถึงวันที่ต้องจากกันเราจะได้ไม่ต้องเสียใจหรือเสียดาย จนอยากย้อนกลับไปแก้ไขทั้งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันสายเกินไป

เพราะคนที่เราอยากกลับไปทำดีด้วยเขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

ป.ล. นวนิยายดีงามจนถูกนำไปสร้างหนัง และกำลังยืนโรงฉายตอนนี้ในชื่อเรื่อง “ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้” ที่ลิโด้ก็มีนะคะ 🙂

ป.ล. 1 ขอบคุณนางแบบ “ถุงเงิน” ด้วย ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนนางเพิ่งกลับจากทำหมันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นางแอบเซ็งเบาๆ กูจะโดน พรบ. คุ้มครองสัตว์เล่นงานมั้ยคะ 555 ดวกส์!

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author