แขกรับเชิญ :: นัท ศุภวาที ::

แต่ไหนแต่ไรมา ภาพจำของฉันต่อประเทศอินเดียคือหนังแขกที่พระนางวิ่งร้องเพลงจีบกันอ้อมภูเขาสามลูก, ขอทานเยอะ, ประชากรแยะ และความสกปรกอันลือเลื่อง ฯลฯ เพิ่งจะรู้สึกดีต่อประเทศนี้ขึ้นมาบ้างก็ตอนได้ดูหนังเรื่อง The lunchbox นี่แหละ แต่กระนั้นฉันก็ยังไม่นึกอยากไปเหยียบอินเดียหรอกนะนายจ๋า

จนกระทั่งได้อ่านหนังสือ “แขกรับเชิญ” ของ นัท ศุภวาที สำนักพิมพ์ a book ที่ประเคนความสนุก โหด มัน ฮา หาความแน่นอนของชีวิตในแต่ละวันไม่ค่อยจะได้ ตามคำโปรยบนหน้าปกที่ว่า “ประสบการณ์อยู่อย่างแขก กินอย่างแขก แบบที่โรงแรมกี่ดาวก็ให้ไม่ได้” ทำให้ดินแดนภารตะน่าค้นหาสำหรับฉันขึ้นมาทันที

ถ้าการไปเที่ยวแบบมีตารางแน่นอน กางแผนที่แบบทัวริสต์ จองโรงแรมเป็นหลักแหล่ง กินหรูอยู่สบาย คงทำให้หนังสือท่องเที่ยวเล่มนี้น่าเบื่ออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเล่มไหนๆก็เขียนทำนองนี้จนเฝือแผง แต่เพราะนักเขียนได้มีโอกาสไปคลุกคลีอยู่กับครอบครัวเพื่อนอินเดียของเพื่อนคนไทยแบบได้ตั๋วฟรีเพราะพี่สนิทออกค่าเดินทางให้ (ดูซับซ้อนเนาะ) ความแปลกใหม่และสนุกจึงบังเกิด ซึ่งตามธรรมเนียมของคนอินเดียเขาจะดูแลแขกของบ้านเหมือนราชา แต่ก็นะ ไปอยู่เมืองแขกมันจะเหมือนราชาตามความหมายแค่ไหนเชียว อยากรู้ต้องไปอ่านเอง

และที่เพิ่มเสน่ห์ ความฮา และน่ารักเข้าไปอีกคือความไม่อินังขังขอบของไกด์จำเป็นอย่าง “ราม” หนุ่มแขกผิวเข้มใสซื่อผู้ไม่ “อะไร” กับชีวิต ที่ทำให้เรื่องยากกลายเป็นง่าย และทำให้เรื่องง่ายๆโคตรซับซ้อนขึ้นไปหลายสิบขีด คำพูดติดปากของเขาเวลาต้องจัดการปัญหาเฉพาะหน้าคือ “ไอแมเนจ ไอแมเนจ” เขาน่ารักในหลายครั้ง และหน้าด้านในบางหน แต่สาบานได้ว่าเขาคือตัวชูโรงชั้นดีของหนังสือเล่มนี้ ถ้าขาดเขาไปเนื้อหาคงกร่อยน่าดู

มีตอนหนึ่งที่นัทนึกสงสัยในความสนิทแนบแน่นฉันเพื่อนแมนๆเตะบอลของผู้ชายอินเดียที่เดินจับมือถือแขนกันหนุงหนิง ถ้าซี้กันมากหน่อยก็สอดนิ้วประสานร่องนิ้วของอีกฝ่ายสบายบรื๋อโดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะครหาว่าเป็นคู่เกย์ พอนัทถามรามว่าอยากแชร์วัฒนธรรมการคบเพื่อนชายไหม รามตอบหน้าตายว่า “ไม่อะ จะรู้ไปทำไม” และอีกหลายเหตุการณ์ที่รามตอบแบบนี้ จนนัทเงิบ และเลิกถามไปเอง 555, ฉันว่าความไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านคือความน่ารักขั้นสุดของราม

ภาษาของนัทสนุก มีชีวิตชีวา บวกกับภาพประกอบที่ดูแล้วเพลินตาในทุกบท ทำให้ประเทศที่แสนธรรมดาและไม่น่าสนใจสำหรับฉันอย่างอินเดีย เป็นดินแดนน่ารักและน่าไปเยือนสักครั้งในชีวิตโดยปริยาย

ไม่ใช่อะไรหรอก, ฉันอยากไปเจอ “ราม” น่ะ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author