“ปดิวรัดา” …เมื่อความรักเริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างแผ่วเบา…

((( มีสปอยล์จ้ะ )))

“…เมื่อความรักเริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างแผ่วเบา ดุจสัมผัสของภมรบนกลีบดอกไม้ หัวใจที่กระด้างก็ได้ประจักษ์ถึงความงามพร้อมของภรรยา ส่วนดวงใจที่บอบบางนั้นก็ตระหนักถึงความองอาจของผู้เป็นสามี…”

เหตุผลหนึ่งที่ซื้อนวนิยาย “ปดิวรัดา” ของสราญจิตต์ สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์มาอ่านคือกระแสละครตอนนี้ที่อื้ออึงมาก แต่หลักๆคือโปรยปกหลังที่ยั่วให้อยากทำความรู้จักกับโลกความรักของรินและศรัณย์ข้างต้น

ก่อนอ่านทำใจล่วงหน้ากับภาษาของผู้เขียนไว้แล้วว่าต้องโบราณและเนิบเนือยน่าเบื่อแน่เลย เพราะพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2496 (63 ปีที่แล้ว) แต่พออ่านจริงกลับพบว่าภาษาค่อนข้างร่วมสมัยและลื่นไหลสละสลวย นอกจากคำว่า ดอก (หรอก) แล้ว อื่นๆแทบไม่สะดุดเลย แถมมีทุกอย่างครบที่นวนิยายเรื่องหนึ่งพึงมี ทั้งข้อคิดสะกิดใจและความบันเทิง

เท่าที่ฟังเพื่อนเล่าถึงเนื้อหาในละครให้ฟัง รู้สึกว่าบทละครโทรทัศน์ค่อนข้างปรับเยอะพอสมควร ข่าวว่าในละครศรัณย์กินตับรินเรียบร้อยแล้ว 555 แต่ในหนังสือตั้งแต่ต้นจนจบพระเอกได้ขโมยหอมแก้มนางเอกแค่ครั้งเดียว มากสุดคือแค่จูบ และแน่นอนว่าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แต่เป็นครั้งเดียวที่แสนโรแมนติกและหวามไหวที่สุดเท่าที่เคยอ่านนวนิยายมา

พล็อตและเนื้อหาเทน้ำหนักไปทางน้ำเน่าแบบไทยๆ แต่เพราะความเก่งกาจของนักเขียนที่เกลี่ยความสำคัญของตัวละคร และคุมโทนของเนื้อเรื่องได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จึงทำให้ปดิวรัดาอ่านสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ, ฉันอ่านจบไวกว่าสปีดปกติของตัวเอง

นักเขียนเก่งมากที่สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครทุกตัวได้ชัดเจน ค่อนข้างมีมิติ และไม่หลุดในรายละเอียดเลย แม้แต่นางร้ายก็ร้ายแบบไม่โฉ่งฉ่างมาก (แบบแว้ดๆๆท่าเดียว) แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความน่ารำคาญประสานางร้ายไทย พระเอกเป็นสุภาพบุรุษพอๆกับใจร้ายได้เมื่อถึงคราวจำเป็น แต่ที่ชอบมากคือบทนางเอก ที่แม้ภายนอกจะดูเป็นคนหัวอ่อนยอมคน บอบบาง แต่จริงๆแล้วเป็นคนเข้มแข็ง ไว้ตัว ทะนง พร้อมปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง และร้ายเป็นในยามที่ถูกคุกคามจนเกินทน, ฉากทำขวดน้ำหอมแตกในห้องนอนนี่คือพีคมาก นางเอกของฉันก็สติหลุดเป็นเพราะพิษรักแรงหึงมันค่อยๆสำแดงเดชแต่เจ้าตัวรู้ไม่เท่าทันความรู้สึกตัวเอง

สิ่งที่ชอบมากเป็นพิเศษคือบรรยากาศระหว่างพระเอกนางเอก ชอบที่ความรักมันก่อตัวเงียบๆภายใต้ความบึ้งตึงหมางเมิน และความคุ้นเคยที่ค่อยๆฟูมฟักภายใต้ความแปลกหน้าเหินห่าง ชอบการต่อล้อต่อเถียงประชดประชันกันไปมาที่มีแต่คนที่รักกัน (แต่ไม่รู้ใจตัวเอง) เท่านั้นถึงจะทำแบบนี้ ตลอดเรื่องทั้งคู่แทบจะไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกัน แต่นักเขียนทำให้เรารู้สึกหวามไหวได้ แค่ทั้งคู่อยู่ใกล้กันเราก็พร้อมหน้าแดงแล้ว

ฉากพระเอกแย่งเตารีดจากมือนางเอกแล้วเอาต้นแขนแข็งแรงของตัวเองค่อยๆดันไหล่บอบบางของนางเอกเบาๆเพื่ออวดว่าเขาก็รีดผ้าเป็นแถมยังทำท่ารีดโชว์สาวนั้นมันช่างน่ารักและโรแมนติก คือไม่ต้องยื้อยุดฉุดกระชากหรือลากเข้ามากอดตามอารมณ์พาไปแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเหมือนที่ในละครดาษๆชอบทำ แต่เชื่อไหมว่าแค่นี้คนอ่านก็จิกหมอนแล้ว

ฉากพีคจิกหมอนหนักสุดคือตอนพระเอกห้ามใจไม่ไหวหลังงุ่นง่านกับตัวเองมาระยะหนึ่ง #กรี๊ด ฉากนี้บรรยายว่าเขาพรมจูบไปทั่วดวงหน้าของนางเอก ไล่ลงมาตั้งแต่หน้าผาก หู แก้ม คาง ก่อนจะจบที่ริมฝีปากบางดั่งกลีบดอกเทียน คือฉากนี้มันอ้อยอิ่งหวามไหวและโรแมนติกจนเหมือนมีผีเสื้อร้อยตัวมาบินว่อนอยู่ในช่องท้องเลยทีเดียว #จิ้นว่าตัวเองเป็นริน 555

ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักตัวละครและเอาใจช่วย ยิ่งเห็นว่าทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่ารักกันก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู ยิ่งถึงตอนที่ทั้งสองกระจ่างแก่ใจแล้วว่าความรักมันบานอยู่ในหัวใจตั้งนานแล้วยิ่งฟิน

สรุปคือดีงามอ้ะ อ่านเถอ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author