หิมาลัยต้องใช้หูฟัง :: โลกในมุมใหม่ที่ไม่เคยมอง

เวลาเบื่อๆ สับสน หมดไฟ และหมดใจกับบางอย่างกูแม่งเคยอยากหนีไปอยู่ไกลๆในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเหมือนกันนะคะ สักสี่ซ้าห้าวันก็ยังดี ยิ่งอ่านหนังสือเรื่อง “หิมาลัยต้องใช้หูฟัง” ของสำนักพิมพ์ a book จบยิ่งอยากแพ็กกระเป๋าแม่งตอนนี้เลย

หนังสือบันทึกการเดินทางเล่มหนามากแต่เนื้อหาไม่หนักเล่มนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความเบื่อหน่าย สับสนในชีวิต เสียใจ ผิดหวัง อยากหนีปัญหา และอื่นๆของ “หมอเก๋อ” นพ.คัมภีร์ สรวมศิริ หมอหนุ่มจากภาคเหนือ อารมณ์ประดามีผลักดันให้เขาเข้าร่วมโครงการ himalayan health exchange (HHE) ที่ชักชวนแพทย์ฝึกหัดและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกออกค่ายอาสาเพื่อรักษาชาวบ้านห่างไกลในเทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย

หนึ่งเดือนเต็มที่เขาเข้าไปอยู่ในดงหมอๆฝรั่งแปลกหน้า (เขาเป็นหมอคนไทยคนเดียวในค่าย ไม่รู้จักใครเลยสักคน) ใช้ชีวิตแบบค่ำไหนนอนนั่น เดินเท้าข้ามเขาเป็นลูกๆวันแล้ววันเล่า เดินวันละหลายชั่วโมงเพื่อไปตรวจและรักษาชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ชีวิตขาดไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีแต่ความเหงา ดวงดาว และความหนาวเหน็บเป็นเพื่อนทุกคืน (นอกจากเพื่อนหมอร่วมสิบกว่าชีวิตที่ค่อยๆสนิทกันมากขึ้นตามเวลาที่จับจ่ายด้วยกัน)

จากที่เขาเคยใช้หูฟังฟังเสียงหัวใจ ตับ ปอด ม้ามและอื่นๆของคนไข้ การไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและสูงกว่าระดับทะเลหลายพันฟุตทำให้เขามีโอกาสเงี่ยหูฟังเสียง “หัวใจตัวเอง” ขณะเดียวกันผู้อ่านก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับเขาผ่านตัวอักษรในทุกย่างที่เขาก้าวเดิน ที่สำคัญการได้ทำประโยชน์ต่อเพื่อมนุษย์ร่วมโลก ไม่มัวหมกมุ่นอยู่กับปัญหาของตัวเองทำให้เขารู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น

แม้จะเป็นนักเขียนมือใหม่ แต่สำนวนภาษาลื่นไหลและอ่านสนุกใช้ได้เลย หลายตอนความเวิ่นเว้อและเป๋อเปิ่นของเขาทำให้กูหัวเราะร่า แต่บางช่วงก็ทำให้กูน้ำตาเล็ด เป็นชะนีไบโพลาร์อารมณ์แปรปรวนอยู่คนเดียวค่ะ ดวกส์!!!

หมอเก๋อบอกไว้ในตอนท้ายของหนังสือว่า การเดินทางไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาหรอก เพราะกลับเมืองไทยปัญหาต่างๆก็ยังรอให้เขาสะสาง แต่มันเปลี่ยนทัศนคติ ทำให้เขามองโลกในมุมใหม่ที่ไม่เคยมองมาก่อน ทำให้เขาเติบโตขึ้นกว่าตอนก่อนแพ็กกระเป๋าก้าวขาออกจากบ้าน

และแน่นอน มันทำให้เขารู้จักตัวเองมากขึ้น…

ใครชอบอ่านหนังสือแนวบันทึกการเดินทางแนะนำเลยค่ะ เผื่อเกิดแรงบันดาลใจให้ออกจากพื้นที่ปลอดภัยท่องไปในโลกกว้างเหมือนหมอเก๋อ หรืออย่างน้อยๆก็ได้ความบันเทิงพอทุเลาความเบื่อหน่ายได้บ้างแหละน่า

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author