บันทึกลับมารี อองตัวแนตต์
นอกจากจะได้รับความสนุกเพลิดเพลินกับเรื่องราวที่คละเคล้าไปด้วยความสุข ความทุกข์ กิเลส ตัณหา และวิบากกรรมในวาระสุดท้ายของชีวิตพระนางมารีแล้ว ผู้เขียนยังแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของเหตุการณ์และบุคคลในประวัติศาสตร์ออสเตรีย, สวีเดน และฝรั่งเศสเป็นระยะ (ผู้เขียนเป็นชาวอเมริกันที่จบเอกประวัติศาสตร์ยุโรป จึงไม่แปลกที่ข้อมูลแน่นมาก) ทั้งยังมีมุกตลกมาเบรกเป็นระยะ เป็นมุกที่ไม่ต้องพยายามเคี่ยวให้ขำแต่เรากลับหัวเราะออกมาเหมือนมีใครมาจี้เอว เช่น ลูกพูดคำแรกได้แล้ว เรียกชื่อ แต่เป็นชื่อพี่เลี้ยง (พระนางมารีเอาแต่เฮฮาปาร์ตี้ ลูกจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพี่เลี้ยง)
การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของพระนางมารี ง่ายต่อการโน้มเอียงเข้าข้างนาง พอๆกับทำให้เห็นรากของปัญหาทั้งมวลว่าอะไรที่หล่อหลอมให้นางเป็นคนแบบนี้ ผู้เขียนฉลาดมากที่ทำให้เราติดตามเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ตัดสินว่าพระนางมารีดีหรือเลว ทุกคนเป็น “มนุษย์สีเทา” ที่มีทุกมิติ เว้นแต่จะมีมิติไหนมีเฉดสีที่เข้มข้นกว่า แต่หลายๆประโยค หลายๆเหตุการณ์ทำให้เราหมั่นไส้พอๆกับเอาใจช่วยนางแหละนะ
จุดจบของพระนางมารี อองตัวแนตต์และพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ย้ำชัดว่า แม้เราจะหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายพ้นแต่ไม่มีใครหลีกเร้นเงื้อมเงาของกฎแห่งกรรมไปได้
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็อย่าได้ริอาจดูถูกพลังของประชาชนเลยเชียว…