นิราศมหรรณพ :: ความแตกต่างสร้างกำแพงแห่งเผ่าพันธุ์

ฉันไม่แปลกใจที่นวนิยายดราม่าแฟนตาซีผสมสืบสวนสอบสวนเรื่อง “นิราศมหรรณพ” ผลงานลำดับที่สองต่อจากเรื่อง “กาหลมหรทึก” ของ “ปราปต์” เข้ารอบแรกรางวัลซีไรต์ปีนี้ เพราะมันมีความสร้างสรรค์ ความเอาจริงเอาจัง และความกล้าที่จะแหวกขนบเดิมๆของงานเขียนในวงวรรณกรรมไทย

ปราปต์เป็นนักเขียนอายุน้อยที่มีคลังคำในหัวเยอะ กล้าประดิษฐ์คำ กล้าลำดับประโยคใหม่ในสไตล์ตัวเอง พูดง่ายๆก็คือเขามี “ลายเซ็น” ชัดเจน ถ้าใครไม่มีกรอบในการอ่าน คงชอบสไตล์การเขียนของปราปต์ไม่ยาก แต่ถ้าใครเกลียดกลิ่นนมเนยที่ติดมากับประโยค คงหงุดหงิดกับการอ่านนวนิยายเรื่องนี้เป็นแน่, ฉันขอเตือน

เอาเถอะ, เรื่องหยุมหยิมที่ฉันว่ามาในบรรทัดข้างบนไม่ได้ทำลาย “สาร” ที่ปราปต์ต้องการสื่อในนิราศมหรรณพเสียหน่อย ถ้าใครเคยอ่านกาหลมหรทึกแล้วรู้สึกทึ่งกับการหาข้อมูลด้วยความใส่ใจและใฝ่รู้ของเขา เล่มนี้ก็ยังคงเด่นในเรื่องของการหาข้อมูลเช่นกัน คุณจะได้รู้จักวัดในกรุงเทพฯอย่างละเอียด จะรู้แทบทุกหลืบที่นักเขียนอยากให้รู้ ทั้งยังจะได้ความรู้เรื่องพลังของคลื่นเสียง ไหนจะเรื่องสารพัดกลอนที่เขาคัดลอกมาเป็นองค์ประกอบในเรื่อง, อ้อ แถมปราปต์ยังปลายนิ้วเลาะร้าย ประชดประเทียดเสียดสีสังคมได้แสบสันอีกต่างหาก

นิราศมหรรณพเล่าเรื่องหลายประเด็นมาก แต่สิ่งที่ทำให้สนุกคือลีลาการเล่าเรื่องของนักเขียน บวกกับการดำเนินเรื่องฉับไว้ ทิ้งปมไว้ให้คิดเดา โดยมุ่งไปที่การสืบคดีฆาตกรรมที่ส่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกรต่อเนื่อง เพราะบรรดาเหยื่อต่างมีลักษณะการตายที่ประหลาดเหมือนกันคือสภาพศพภายนอกปกติ แต่อวัยวะภายในฉีกขาด ข้างๆศพมีขวดน้ำมันวางอยู่ และทุกศพล้วนตายในวัด การดำเนินเรื่องมีชั้นเชิงน่าทึ่งการตามล่าฆาตกรก็ทำได้น่าติดตามและลุ้นระทึก บางคดีอีกแค่คืบก็จะสาวถึงตัวผู้ทำผิด แต่จนแล้วจนรอดผู้เขียนก็หลอกล่อเราไปจนถึงหน้าสุดท้ายจนได้, แม้โดยรวมจะไม่เทียบเท่ากาหลมหรทึก แต่มันก็สนุกจนวางไม่ลงเช่นกัน

นอกจากพล็อตที่ค่อนข้างท้าทายจินตนาการ, มีสัญลักษณ์ให้ตีความเยอะ, การหาข้อมูลที่ละเอียดใส่ใจ, การกล้ายำทั้งประเด็นดราม่า แฟนตาซี ความรัก สืบสวนสอบสวน วิทยาศาสตร์ และกลอนสารพัดแล้ว จุดเด่นอีกอย่างของนวนิยายเรื่องนี้คือคาแรกเตอร์ของตัวละครหลัก ทั้งกำมะหยี่ เด็กหญิงหูหนวกเป็นใบ้ผู้ฉลาดเป็นกรด, ร.ต.อ.เชลียง นายตำรวจผู้ตงฉินที่มีภูมิหลังลึกลับ, จุลเกตุ นางเอกผู้มีปมในใจ, มงกุฎ สาวสวยเท่ที่มีเสน่ห์มัดใจทั้งชายและหญิง นักเขียนใส่รายละเอียดให้ตัวละครแบบใส่ใจและตั้งใจปั้น โดยเฉพาะกำมะหยี่นี่โคตรเด่นและโคตรจะมีผลต่อเนื้อเรื่องโดยรวมอย่างมาก (ต้องไปอ่านเองถึงจะรู้ ไม่อยากเผลอสปอยล์)

หลังจากอ่านจบ “ความแตกต่างสร้างกำแพงแห่งเผ่าพันธุ์” คือสารที่ฉันได้รับจากนวนิยายเรื่องนี้ ปราปต์ชูคนเป็นใบ้หูหนวก, คนเป็นโรคเอดส์, และคนเป็นเกย์ (ในที่นี้คือเลสเบี้ยน) ขึ้นมาเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ถูกมองว่า “ต่าง” ในสังคม หากมองผิวเผินสังคมปากว่าตาขยิบแบบไทยๆอาจจะกระมิดกระเมี้ยนพูดนัยว่าเห็นใจหรือเปิดกว้างสำหรับคนกลุ่มนี้ แต่เอาเข้าจริงก็ซ่อนความหยันเหยียดไว้ไม่มิดด้วยการเบ้ปากลับหลัง

ลงว่าไม่ใช่พวกของตัวก็ตั้งกำแพงแห่งเผ่าพันธุ์กันไว้ซะสูงลิ่ว คล้ายกลัวว่าจะมาแปดเปื้อนให้มัวหมอง

ไม่รู้ใครกันแน่ที่น่าสมเพชมากกว่ากัน ระหว่างคนที่ถูกมองว่าต่าง กับคนที่พยายามยัดเยียดความต่างให้คนอื่น

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author