ชู้ (Adultery) :: หลากเหตุผลของคนมีชู้ ::

::: หลากเหตุผลของคนมีชู้ :::

นวนิยายเรื่อง “ชู้ (Adultery)” ของ เปาโล คูเอลโญ สำนักพิมพ์เอโนเวล ในเครือนานมีบุ๊คส์น่าสนใจตั้งแต่ชื่อและหน้าปกแล้ว มันทั้งชัดเจนและคลุมเครือน่าค้นหาเหมือนชีวิตของ “ลินดา” นักข่าววัยสามสิบเอ็ด นางเอกของเรื่องที่ริคบชู้สู่ชายทั้งที่มีผัวแสนดีและลูกๆน่ารัก, และพออ่านจบฉันก็พบว่านี่คือนวนิยายชีวิตที่ดีมากอีกเรื่องหนึ่ง

ชู้ เล่าเรื่องผ่านสายตาของบุรุษที่หนึ่งซึ่งก็คือลินดาเอง ฉันชอบความซุกซนในหัวเวลาเธอวางแผนนั่นนี่โน่น และชอบความแรดร่านของเธอที่ถูกฝังกลบอยู่ภายใต้กรอบสังคมอันเคร่งครัดของสวิสเซอร์แลนด์และภาพความเป็นเมียและแม่ที่แสนดี ทั้งยังหน้าที่การงานที่ถูกจับตาจากสังคมใช่น้อย

แต่เพราะชีวิตราบเรียบและเพียบพร้อมเกินไป บวกกับโรคซึมเศร้า และถูกความเหงากัดกินข้างใน ลินดาจึงหาความโลดโผนให้ชีวิตด้วยการเป็นชู้กับนักการเมืองอนาคตไกล ผู้เป็นอดีตแฟนสมัยมัธยมที่มีเมียแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและยากที่ใครจะยอมรับ แต่เธอก็ทำ และทำแบบไม่รู้สึกผิดเสียด้วย, ในเรื่องไม่มีคำบรรยายว่าเจคอบรูปร่างหน้าตายังไง แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาหล่อ สมาร์ต และน่ากิน 555

เปาโลเล่าเรื่องเก่งมาก ชัดเจนว่านี่คือคนที่ผ่านโลกมาเยอะและรู้เยอะ เขาสอดแทรกอะไรไว้ในเล่มเยอะมาก ทั้งจิกกัดสังคมสวิสเซอร์แลนด์ยุคใหม่ และสังคมก้มหน้าผ่านพฤติกรรมลูกๆของลินดา ทั้งให้ความรู้จิปาถะ ทว่าไม่ยัดเยียด

ที่สำคัญคือเขาบรรยายอารมณ์ความรู้สึกของลินดาออกมาได้กระจ่างแจ้งและสับสนปนเปกัน ใช้คำน้อยแต่ได้ความมาก ไม่เวิ่นเว้อแต่ฉันกลับมีอารมณ์ร่วมไปกับลินดาตั้งแต่ต้นจนจบ เขาทำให้ฉันอินจนเผลอคิดว่าตัวเองเป็นลินดาก็หลายหน เขาสื่อความวายป่วง ความสับสน ความสัปดน ความกลัว ความขี้ขลาด ความสับสน ความดื้อแพ่ง ความมารยา ความแพศยา และสารพัดความของเธอออกมาได้ลึกถึงแก่น

ฉากบนเตียงเขาก็บรรยายจนฉันวูบวาบหน้าร้อนผ่าวทั้งที่ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย ไม่เวิ่นเว้อ เพียงแค่ย่อหน้าเดียวไม่กี่บรรทัด แต่เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเซ็กซ์ของลินดาและเจคอบมันซู่ซ่าเสียวซ่านขนาดไหน นี่คือตัวอย่าง

“…เขาแทรกมันเข้าไปในร่างฉัน กดไหล่สองข้างของฉันไว้ แล้วก็ขย่มๆ ไม่ต่างจากสัตว์ป่า เขายกขาฉันฉีกขึ้นไปทางแขนเพื่อที่จะได้ล่วงล้ำเข้าไปให้ลึกที่สุดแล้วเร่งเร้าจังหวะ…”

ฉากแอบนัดพบกันของชู้รักแต่ละครั้งช่างตื่นเต้น ฉากกลัวถูกผัวจับได้ก็กดดัน ฉากปะทะคารมกันกับเมียของชู้ตอนท้ายเรื่องเล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งคู่เชือดเฉือนกันด้วยคำพูดและชิงไหวชิงไหวพริบ ผลคือฉันรู้สึกเครียดยิ่งกว่าตัวละครทั้งสองลุกขึ้นมาจิกหัวตบกันกลางโต๊ะอาหารเสียอีก คือพีคมาก

อ่านไปก็ทั้งสงสารและหมั่นไส้ ใจนึงฉันอยากให้ลินดาได้รับผลของความไม่ซื่อสัตย์ของตัวเองอย่างสาสม และอยากรู้จุดจบของผู้หญิงแพศยาอย่างเธอ แต่อีกใจก็นึกสมเพชที่เธอช่างไร้ค่าและไม่เคารพตัวเองจนเผลอใจออกนอกลู่นอกทางไปไกลขนาดนี้, มีแต่คนไม่มีศักดิ์ศรีเท่านั้นที่ลดค่าตัวเองมาทำอะไรต่ำตมเช่นนี้

แต่ยังไงเสียเธอก็ได้ลิ้มรสของคำว่า “สวรรค์ในอกนรกในใจ” เป็นระยะอยู่แล้ว พร้อมๆกับการได้เรียนรู้และเติบโต แม้จิตวิญญาณจะแหว่งวิ่นไปบ้าง แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เรียนรู้ เหมือนตอนหนึ่งที่เธอพูดว่า…

“…ไม่มีใครสามารถบังคับใจของตนให้รักใครได้ เฉกเช่นเดียวกับที่ไม่สามารถบังคับอีกคนได้ เราทำได้อย่างเดียวคือมองไปที่ความรัก ตกหลุมความรัก และยึดถือความรักเป็นแบบอย่าง…”

นี่คือนวนิยายที่จะทำให้เราค้นพบตัวเอง เส้นทางที่เราจะเดิน และสิ่งที่สำคัญต่อเรามากที่สุด, แนะนำค่ะ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author