ความรักไม่มีเพศ(8)

เรื่องของเป้ยังไม่ทันจบดี…ฉากใหม่ของความรักก็เริ่มต้นขึ้น
ไม่ต่างอะไรกับภาพในหนังโรมิโอ-จูเลียต ภาคล่าสุด ที่มีลีโอนาร์โดเล่นกับใครนะ…จำชื่อนางเอกไม่ได้แฮะ

ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัดของความรักครั้งเก่า…
ระหว่างที่ฉากเศร้า ๆ …ของเป้…กำลังจะปิดฉาก…ฉากหวานซึ้งฉากใหม่ของ ” Fin ” ก็เริ่มต้นขึ้น
” Fin” ตกหลุมรักทันทีที่มองผ่านกระจกของตู้ปลาแสนสวยไปสบตากับหนุ่มน้อยคนใหม่ที่ชื่อ “ติว”

ปรากฏการณ์ “รักแรกพบ” สะกดให้เขาแทบจะลืมหายใจ
เพราะคนคนนี้ตรงสเปคไปแทบจะทุกอย่าง…ไม่ว่าจะหน้าตา…หรือบุคลิกท่าทาง

“Fin” เปิดฉากเร็วเหมือนทุกครั้ง…เขาส่งยิ้มให้ และติวก็ยิ้มตอบอย่างไม่ลังเล
ทั้งสองคนเริ่มต้นรู้จักกันในวันแรกที่สบตาและส่งยิ้มให้กัน

“Fin” กลับมาโทรเล่าให้ฉันฟังอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ถูกใจคนใหม่อย่างที่สุด
แต่ก็ยังอุตส่าห์มีสติพอที่จะยั้งตัวเองว่ามันอาจไม่ใช่ความรัก แต่เป็นแค่ความหลงชั่ววูบ

ฉันเตือนให้เขาลองทบทวนเรื่องของเป้อีกซักครั้ง
เวลาพิสูจน์ความจริงใจของเป้ให้เราได้รับรู้กันดีอยู่แล้ว…และฉันแค่อยากจะถามอีกครั้งว่า
เขาแน่ใจแล้วจริง ๆ หรือ…ที่จะโยนความจริงใจที่ได้รับนั้นทิ้งไป…

“Fin” หยุดคิด…และถอนใจอีกครั้งก่อนจะบอกว่า
ไม่ว่ารักครั้งใหม่ของเขาจะสมหวังหรือผิดหวัง…ไม่ว่าติวจะรักตอบหรือไม่
ไม่ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น…จะใช่ “ีรัก” หรือเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบของความหลง

ที่เขาแน่ใจที่สุดตอนนี้คือ…เป้…ไม่ใช่คนที่เขาจะอยู่ด้วยอย่างมีความสุขแน่ ๆ

……………………………………………….

เป้เดินจากไป…ด้วยความเศร้า…พร้อมกับคำว่า “รัก” ที่ยังคงยืนยันหนักแน่น
แต่นั่นล่ะ…เมื่อใจอีกคน…รู้สึกชัดเจนซะแล้วว่าไม่ใช่…ต่อให้ย้ำคำว่า “รัก” อีกซักกี่ครั้ง
ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ…หรือยื้อยุดอีกคนไว้ได้…เรื่องแบบนี้ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ

แล้วความรักครั้งใหม่ของ ” Fin” ก็เริ่มต้นดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนเขาจะแน่ใจในความรักครั้งนี้ค่อนข้างมาก

ความแตกต่างด้านนิสัยใจคอของเป้กับติว…คือข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน
ฉันเองก็เริ่มตั้งข้อสังเกตอะไรบางอย่างกับความรักที่เกิดขึ้นกับ ” Fin”
และยิ่งแน่ใจมากขึ้นเมื่อเขาพาฉันไปแนะนำให้รู้จักติวอย่างเป็นทางการ

ติว…ไม่ใช่หนุ่มน้อยอย่างที่ฉันนึกภาพไว้ตอนแรก…
แต่เป็น “สาวน้อย” แสนงอนที่ดึงดูดสายตา และสะดุดใจผู้คนตั้งแต่แรกพบ
ใบหน้าหวานสนิท…อ่อนใส…ดวงตาคู่สวย…ขนตางอนยาว…ไม่มีวี่แววของคำว่า”ผู้ชาย” ซักนิด

ธรรมชาติ…สร้าง “ผู้ชาย” ให้สวยงามและอ่อนหวานได้อย่างนี้เชียวหรือ
ฉันถามตัวเองอยู่ในใจ…เด็กคนนี้เกิดมาผิดเพศตั้งแต่แรกเกิดจริง ๆ นะเนี่ย…
ก็น่าอยู่หรอก…ที่ ” Fin” จะตกหลุมรักตั้งแต่แรกสบตา

แต่ความรู้สึกส่วนตัวฉันกลับไม่ค่อยชอบติวซักเท่าไร
เพราะจริตมารยาที่เกือบจะมากกว่าผู้หญิงของเธอ…ทำให้อดหวาดระแวงไม่ได้
ว่าที่เธอคนนี้ก้าวเข้ามาใกล้ชิดกับเพื่อนเราอย่างรวดเร็วอย่างนี้มีจุดมุ่งหมายอะไรกันแน่

ความรักครั้งใหม่ของ “Fin” เริ่มต้นขึ้นอย่างไม่ค่อยสดใสนัก
เพราะอีกฝ่ายยังไม่เคยตอบรับรักอย่างเต็มปากเต็มคำให้เขาได้ยินสักครั้ง
แต่อาการที่แสดงออกก็ทำให้คนรอ…มีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม

ติวใช้คำว่า “ชอบ” บอกเพียงแต่ว่ารู้สึกพิเศษกับ ” Fin” มากกว่าที่เคยรู้สึกกับคนอื่น
แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้สึกนั้นคือ ” รัก ” หรือเปล่า…

ฉันจับตามองความสัมพันธ์นี้อย่างค่อนข้างใส่ใจ
เพราะเพื่อนของฉันดูเหมือนจะทุ่มเท จริงจัง และแคร์หนุ่มน้อยคนนี้ค่อนข้างมาก

“เพราะเขาไม่ได้รักนายอย่างที่เป้รักหรือเปล่า…นี่หรือเปล่าคือสิ่งที่ทำให้นายจริงจัง
จดจ่อ เพราะติวทำให้นายรู้สึกว่าความรักครั้งนี้เป็นเรื่องท้าทาย เป็นเรื่องที่นายต้องรอ
เหมือนกับความรู้สึกที่นายเคยผ่าน ๆ มาใช่ไหม รักคนที่เขาไม่รัก คนที่เขาให้แต่
ความไม่แน่นอนที่นายต้องคอยลุ้น คอยเดาใจ…นี่คือสิ่งที่เป้ไม่เคยทำให้นายรู้สึกใช่ไหมเนี่ย”

ฉันไม่อยากสรุป…แต่ก็อดไม่ได้เอาจริง ๆ
” Fin” ยืนยันว่าไม่ใช่…เขามั่นใจว่าเขารักติว…อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับเป้
แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ติวทำให้เขาเสียใจ ไม่มั่นใจ และสับสนกับความสัมพันธ์
แต่เขาก็ยังรัก…และยืนยันว่ามีความสุขที่ได้อยู่กับคนคนนี้…

เขาสองคนคบกันอยู่หลายเดือน…ดีบ้าง…ร้ายบ้าง
ดูเหมือนติวจะมีนิสัยใจคอไม่ต่างจากผู้หญิง…ขี้งอน…ขี้น้อยใจ…
และทำให้เพื่อนของฉันต้องคอยตามง้อ ตามเอาใจอยู่ตลอดเวลา

ตลอดเวลาที่คบกัน…ติวมองเห็นข้อบกพร่องมากมายของ ” Fin ”
และต่อว่าอย่างตรงไปตรงมาจนอีกฝ่ายต้องกลับมาน้อยใจ กลับมาคิดมาก

เมื่อเขาโทรมาปรึกษา…ฉันพยายามเป็นกลางอย่างที่สุด
หลายข้อที่ติวต่อว่ามา…คือสิ่งที่ฉันเองก็มองเห็นในตัวเขา…แต่ยอมรับได้เสมอมาในฐานะเพื่อน
อย่างที่เคยเล่าไว้…ปัญหาด้านอารมณ์ของ ” Fin ” ลดน้อยไปมากแล้ว จากวันแรกที่ฉันรู้จัก
แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำคนที่คบกับเขาอย่างใกล้ชิดอดทนเขาได้…หากขาดความรัก…ความเข้าใจ

” Fin ” เองก็สารภาพว่า…เขาก็เป็นอย่างนี้ตลอดเวลาที่อยู่กับเป้…แต่เป้ไม่เคยว่าเขาสักคำ
ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ…หลายอย่างทำให้ฉันยิ่งแน่ใจ…ว่าความรู้สึกของเป้และติวต่างกันขนาดไหน

เมื่อเรารักใครซักคน…
ความรัก…มักทำให้เราเข้าใจคนคนนั้น…และยอมรับข้อบกพร่องของคนคนนั้นได้เสมอ
แต่ถ้าไม่รัก…ไม่ว่าคนคนนั้นจะพยายามซักเท่าไร…
เราก็ยังมองเห็นข้อบกพร่องในตัวเขา…ที่ทำให้เราไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา

ความรักครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว…ราวขาวกับดำ
แต่ ” Fin” ก็ยังพยายามประคับประคอง…เพื่อให้ความรักที่เขามั่นใจว่าคือ “รักแท้” อยู่ยืนยาว

ถามฉัน…ฉันไม่เคยรู้สึกเลยว่ารักครั้งนี้จะไปได้รอด…
และที่หนักไปกว่านั้น…ฉันไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าเด็กคนนี้จะรักเพื่อนของฉันแม้เพียงเศษเสี้ยวของหัวใจ

แล้วในที่สุด…สิ่งที่ฉันคาดเดาไว้…ก็เป็นจริง…

“เขาโทรมาบอกเลิกผมแล้ว…”
เสียงอ่อนระโหยที่ดังมาตามสาย ทำให้ฉันอึ้งไป ทุกอย่างรวดเร็วจนทำใจไม่ทัน

” Fin” โทรมาขณะที่กำลังขับรถไปเพื่อเคลียร์เรื่องราวทุกอย่าง
และไปดูให้เห็นกับตาว่าผู้ชายคนใหม่ที่คนที่เขารักยืนยันว่า “ใช่” แตกต่างกับเขาแค่ไหน

สามวันกับสามเดือน…เขาย้ำคำนี้กับฉัน
ติวรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้แค่สามวัน…แต่กลับทำให้สิ่งที่ “Fin” ทุ่มเทมาตลอดเลือนหายไปในพริบตา

ติวเล่าว่า…แค่นาทีที่พบกับผู้ชายคนนี้ครั้งแรก…ก็รู้สึกประทับใจกับชายหนุ่มมาดเซอ ร่างสูงคนนี้
สามวันที่ได้คุย ได้คบกัน…ยิ่งทำให้แน่ใจยิ่งขึ้น…ว่าคนคนนี้คือคนที่เขารอคอยมาตลอด…คือคนที่ “ใช่”

และนี่คือสิ่งที่ติวไม่เคยรู้สึกกับ “Fin” ตลอดเวลาที่คบกันมาสามเดือน
วันนี้คือวันที่ติวแน่ใจแล้วว่า…ความรู้สึกพิเศษที่มีให้ ” Fin” ไม่ใช่ความรัก…

สามวันกับสามเดือน…แค่สามวันก็แน่ใจแล้วว่ารักเขางั้นหรือ…
เพื่อนของฉันเฝ้าแต่ถามย้ำ…ทั้งที่ตัวเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า…
เวลา..ไม่เคยเป็นเงื่อนไขที่จะห้ามไม่ให้ใครคนหนี่งตกหลุมรักใครอีกคนหนึ่ง

มันไม่นานเลย…ที่ตัวเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนี้…และเหตุผลที่ว่า “ไม่ใช่”
ก็เคยเป็นเหตุผลที่เขาบอกกับเป้…ในวันที่เลิกลากันไป…ทั้งที่คบกันมาหลายเดือน
เหมือนกับที่เขาเองก็ตกหลุมรักติวในนาทีแรกที่พบกัน…เหมือนที่ติวรู้สึกกับผู้ชายคนใหม่คนนี้

เมื่อทุกอย่างย้อนกลับมาในวันนี้..
ทำไมตัวเขาเองจึงจะยอมรับไม่ได้กับการสูญเสียทีเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างไม่คาดฝันนี้ล่ะ…

“Fin” กลับมาอย่างนิ่งเงียบ…ไม่พูด…ไม่เล่า
บอกแค่เพียงว่า…รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่…และเข้าใจแล้วว่าคนที่ใช่สำหรับติวเป็นอย่างไร

เขายอมรับทุกอย่าง…ไม่ยื้อ…ไม่ขัดขวาง…และยอมเป็นฝ่ายเดินจากมาด้วยดี
คำบอกเล่าที่จบลงสั้น ๆ ง่าย ๆ ต่างจากทุกครั้งทำให้ฉันใจหาย…

ทั้งที่ห่วงแสนห่วง…
อยากให้เพื่อนได้ระบาย…ได้เล่าความรู้สึก…ปล่อยความเศร้าที่เก็บอยู่ในใจออกมา
แต่ฉันก็ทำได้แค่ปล่อยให้เขาได้อยู่คนเดียว…กับความรู้สึกของตัวเอง…

เมื่อเขายืนยันมาเบา ๆ ก่อนจะวางสายไปว่า…

เขาไม่เป็นไร…

มาถึงตอนนี้…ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
มีคำว่า “รักแท้” อยู่จริงไหม…ในความรักของคนที่เป็นเกย์

ไม่ใช่ไม่เชื่อใน “รักแท้”
แต่เริ่มไม่มั่นใจในอารมณ์ ในความรู้สึก ในความเป็น “เกย์” ของเขา
ซึ่งอาจแตกต่างจากคนเพศปกติจนฉันไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจได้

บางทีพวกเขาอาจไม่สามารถ “รัก” ด้วยความรักที่ราบเรียบ สงบ
รักด้วยหัวใจ ด้วยความเข้าใจ ด้วยการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ด้วยการอาศัยเวลา
บางที…อาจไม่มีคำว่า “รัก” ที่ยาวนานสำหรับพวกเขา

เรื่องราวมันจะจบด้วยความเศร้าอย่างนี้เสมอไปจริงหรือ
คนที่คบกันมาผ่านเวลาหลายเดือน…เรียนรู้…เข้าอกเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง…
ยอมรับตัวตนของกันและกันได้จนเป็นเหมือนเพื่อน…เหมือนพี่…เหมือนคนรักที่เข้าใจ
จะต้องพ่ายแพ้ให้กับคนที่เดินผ่านเข้ามาสบตาเพียงนาทีเดียวอย่างนี้เสมองั้นหรือ…

พวกเขารักกันด้วยความถูกใจกันและกัน…เท่านั้นใช่ไหม…
ตัวตนของกันและกัน…ความเข้าใจ…เห็นใจ…ความผูกพันระหว่างกัน…มันจะเกิดขึ้นได้บ้างไหม

ฉันไม่มีคำตอบให้ตัวเอง…ในขณะที่ ” Fin” ก็ไม่มีความคิดที่จะหาคำตอบอีกต่อไปแล้ว

เขากลับไปสู่โลกสีเทาใบเดิม…เหงา…เศร้า…และใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อย
ไม่ “รัก” แต่เต็มใจที่จะ “หลง” ไปเรื่อย ๆ กับใครก็ได้ที่ถูกใจ
และพร้อมที่จะ “แลกเปลี่ยน” กับเขาอย่างเต็มใจ

เหมือนจะได้ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ
” Fin ” มีคนถูกใจไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แลกกับ “ของ” ที่คนคนนั้นอยากได้
เหมือนเขาสามารกำหนดทุกอย่างได้ตามความพอใจของตัวเองด้วย “เงิน”ที่มีอยู่
แต่ทุกครั้งที่กลับมาอยู่คนเดียว…เขาก็รู้ดีทุกอย่างที่เขาได้มาจากการแลกเปลี่ยนนั้น
ไม่มีอะไรเป็นจริงแม้แต่อย่างเดียว…

ใครบางคน…ที่เขาชอบอย่างจริงใจ…กลับกลายเป็นเพียงคนที่ต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน
และยอมตามใจเขาทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
และแน่นอน…เขารู้ดีว่า…สิ่งที่คนคนนั้นต้องการ…ไม่ใช่หัวใจ…ไม่ใช่ตัวเขา…ไม่ใช่”ความรัก” ที่เขาอยากจะให้

ฉันได้แต่รับฟัง…รับรู้…ปลอบโยน
ทั้งที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินชีวิตแบบที่เป็นอยู่…แต่สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด
ก็ทำให้ฉันไม่กล้าขัดขวาง…ไม่กล้าขัดใจ…ไม่กล้าออกความเห็นใด ๆ

สิ่งเดียวที่ฉันคอยย้ำกับเขาเสมอ…ย้ำทุกครั้งที่เขาเศร้า…เหงา…เหมือนไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว
ก็คือ…เขาต้องอยู่ให้ได้นะ…เขาต้องรักตัวเอง…รักให้มาก ๆ …จนกว่าจะมากพอที่จะแบ่งปันความรักให้คนอื่น

เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…ไม่ว่าจะในหัวใจของคนเป็นเกย์ หรือคนปกติ
ฉันยังคงเชื่อมั่นว่า…ความรัก…สวยงามเสมอ…แม้จะไม่มีคนที่เรารักอยู่ข้าง ๆ
ขอแค่เรารู้จักที่จะ “รัก” ขอแค่ “เรารักเป็น”…บางที…เราอาจไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความรักกลับคืนมา
บางที…การที่ได้รัก..ได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารัก…เท่านั้น…ก็อาจเพียงพอที่จะทำให้หัวใจอบอุ่นและเป็นสุขได้แล้ว

เหมือน ” Fin” จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉันซักเท่าไร
แต่เขาก็เริ่มลุกชึ้นมาทุ่มเทให้งาน ครอบครัว เพื่อน และผลักดันชีวิตตัวเองให้ก้าวต่อไป

แล้ววันหนึ่ง…เขาก็ค้นพบโลกใบใหม่…ที่ทำให้ความเหงาของเขา..หายไป

โลกใบใหม่ใบนั้น…คือโลกที่ฉันกำลังสนใจและพร้อมจะก้าวเข้าไปค้นหาและเรียนรู้เช่นกัน

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่า “ไซเบอร์สเปซ” จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตคนเราได้มากมายขนาดนี้
แต่เมื่อตัวเองได้เริ่มเดินทางเข้าไปผจญภัยในโลกใบใหม่ใบนี้…ฉันก็ต้องแปลกใจ
กับความกว้างใหญ่มหาศาล ผู้คนนับล้านที่เดินทางเข้ามาทักทายกันและกัน พูดคุยกันโดยไม่เห็นหน้าค่าตา

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ…อะไรหลายอย่างเริ่มขึ้นที่นี่…
ทั้งมุมมืด มุมสว่าง สิ่งดี สิ่งร้าย ทุกหลืบมุมที่เคยหลบเร้นอยู่ในโลกปกติที่เราใช้ชีวิตอยู่
ดูเหมือนจะถูกเปิดเผย ถูกแสดงตัวอยู่ที่นี่อย่างเต็มที่ และภาคภูมิ

โลกไซเบอร์…มีทั้งมิตรภาพ…ความรัก…และอะไรอีกหลายอย่างที่ออนไลน์ให้ผู้คนได้ค้นหากันได้ไม่รู้จบ

ทันทีที่ฉันเริ่มต้นเดินทาง…ฉันก็สนุกกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ได้เจอะเจอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ หรือมุมใหม่ ๆ
ที่ไม่อาจพบเจอได้ง่ายนักในโลกปกติที่เราใช้ชีวิตอยู่…ทั้งสิ่งที่ดีที่สุด…และสิ่งที่ร้ายที่สุด

เหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการที่ไม่จบสิ้น…หากในที่สุด…ฉันก็กลับมาสู่โลกปกติ
เมื่อการเรียนรู้ผ่านขั้นตอนของมัน…จนเข้าสู่บทสรุป…ได้รับบทเรียนทั้งดีทั้งร้ายมาจนเต็มหัวใจ

แต่สำหรับ ” Fin ”
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่เรียนรู้…ไม่ใช่แค่โลกแห่งการผจญภัยหรือจินตนาการ
แต่เป็น “โลกอิสระ” ของ “เกย์” ที่ไม่มีวันค้นพบในโลกปกติที่ต้องคอยหลบเร้นตัวตนของตัวเอง

” Fin ” เข้าพบโลกใหม่ของเขาโดยอาศัยโปรแกรมทางอินเตอร์เนตทุกโปรแกรม
ไม่ว่าจะเป็น Pirch หรือ ICQ รวมไปถึงเวบบอร์ดที่เป็นศูนย์รวมของชนชาวเกย์ทั้งหลาย

โลกใบใหม่ของเขาเปิดกว้าง…หลากหลาย…มีเพื่อนใหม่มากมาย…
ที่มีความรู้สึกและอารมณ์เดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน มีความต้องการเดียวกัน และเข้าใจซึ่งกันและกัน

ช่วงนั้น…ทั้งฉันและ ” Fin ” ห่างกันไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่แต่ละคนค้นเจอ
หลายเดือนผ่านไป ฉันกลับมาสู่โลกปกติ และหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานานหลายเดือน
ฉันก็ได้รู้ข่าวจากบรรดาเพื่อนฝูงว่า ” Fin ” กำลังติดเนตอย่างหนักจนไม่มีใครได้พบหน้า

ฉันโทรหา ” Fin ” ด้วยความเป็นห่วง…ไม่รู้ว่าโลกใบใหม่ของเขาพาเขาเดินทางไปไกลแค่ไหนแล้ว
” Fin ” กำลังมีความสุข…ไม่ใช่เพราะได้เจอรักแท้..หรือมัวแต่ตกหลุกรักกับใคร
แต่เขากำลังมีความสุขเพราะเจอโลกของตัวเอง…โลกที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ…ไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ในโลกภายนอก

“ผมก็เข้าเวบโน้นออกเวบนี้ไปเรื่อย อ่านเวบบอร์ดมั่ง แชทมั่ง คุยไปเรื่อย ๆ ไปทิ้งเบอร์ไอซีคิวไว้ในเวบเกย์
บอกว่าอยากมีเพื่อน กำลังอยากความรัก อยากคุยกับคนเข้าใจ ก็มีคนแอดมาเพียบ คุยกันไปเรื่อย
ได้เจอเกย์ทุกรูปแบบ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพวกทีเปิดเผย ทั้งพวกแอบแต่ที่แน่ ๆ ผมเพิ่งรู้ว่าคนเป็นเกย์ใน
ประเทศไทยมีไม่น้อยเลย แต่เพราะสังคมไทยมันเป็นแบบนี้พวกเขาถึงต้องเก็บกด ต้องมาแสวงหาโลก
ของตัวเองกันที่นี่ ผมรู้สึกดีมากเลยนะที่ได้รู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รู้สึกเหมือนผมเข้าใจผม แล้วก็กำลัง
ค้นหาอะไรหลายอย่างในตัวเอง เหมือนที่ผมกำลังค้นหา…”

ฉันยิ้มออกมาได้อย่างโล่งใจเมื่อได้ยิน…
นี่ละ..คุณค่ามหาศาลของอินเตอร์เนต…สำหรับสังคมปิดอย่างเรา

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author