คมความคิดของโกวเล้ง

line2โกวเล้ง ” คือยอดนักเขียนนวนิยายกำลังภายใน
ที่ลือชื่อของจีนไม่ว่าจะเป็นฤทธิ์มีดสั้น จับอิดนึ้ง
เหยี่ยวเดือนเก้า หรือจอมโจรจอมใจ …ฯลฯ

หนังสือมากมายหลายเล่มของโกวเล้ง ท่ามกลางฉากของการต่อสู้ในยุทธภพ
แฝงปรัชญาแห่งการดำเนินชีวิต และบอกเล่าเรื่องราวความรักในแง่มุมต่าง ๆ
ไว้อย่างลึกซึ้ง หากในมุมของความรัก ที่ลึกที่สุดคงเป็นเรื่องราวของ
โศกนาฏกรรมความรักที่มักปรากฏกับชีวิตตัวละครหลากหลายตัวของโกวเล้ง

จากหนังสือ “เดียวดายใต้เงาจันทร์” บทบันทึกของโกวเล้ง ที่แปลโดยเรืองรอง รุ่งรัศมี
มีคำบันทึกจากโกวเล้งที่กล่าวไว้ว่า…ถึงแม้บาดแผลบนร่างกายของคนเรา อาจมีได้
นับร้อยนับพันแห่ง…แต่รอยแผลในหัวใจ กลับมีอยู่เพียงรอยเดียว และที่ตรงนั้นเอง…
ที่เขารู้สึกว่าเปราะบางที่สุด ถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด แม้ว่าปากแผลจะปิดไปแล้วก็ตาม
แต่เมื่อไรที่มีอะไรมาสะกิดทำให้เราหวนคิดกลับไป…อาการก็จะกำเริบเจ็บปวดขึ้นมาอีก
และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขากลัวเสียงดนตรีอย่างที่สุด

และนี่คือถ้อยคำความคิดส่วนหนึ่งของโกวเล้งทั้งแง่มุมของชีวิต
และความรักจากหนังสือของเขา…

“…ในชั่วชีวิตของคนเรา ความจริงมีเรื่องราวที่ มิว่าผู้ใดก็ต้องอับจนปัญญา
นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชั่วชีวิต…เป็นความเจ็บปวดสุดซึ้งที่สุด
ของชั่วชีวิต พบพานกับเรื่องเช่นนี้…ท่านไม่มีปัญญากระเสือกกระสนดิ้นรน
ไม่มีปัญญาต่อสู้ขัดขืนไม่มีปัญญาปฏิเสธตัดรอนเลย แม้นับว่าท่านยินยอมให้ร่างกาย
เป็นผุยผงตกอเวจีไปชั่วกัปกัลปยังคงไม่อาจเหนี่ยวรั้งที่ท่านสูญเสียให้กลับมาได้
อาจบางทีท่าน…ความจริงมิเคยได้มันมาเลยตลอดกาลนาน…”

“…เรื่องที่สวยงามมักเป็นเช่นฟองสบู่อยู่เสมอมา ปรากฏวูบก็หายวับ หากคิด
จะฝืนกำลังไปเหนี่ยวรั้งมันไว้ที่แลกได้มา มักเป็นความเจ็บช้ำและเคราะห์กรรมเสมอ…”

“…ความรักนับเป็นเรื่องพิศดารที่สุดจริงๆ มันบางครั้งสามารถบันดาลให้คนโง่เขลา
กลายเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องที่สุด แต่บางครั้งกลับสามารถบันดาลให้คนชาญฉลาด
กลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาได้…”

“…มีเรื่องบางประการ มาตรว่าท่านปฏิเสธไม่ไปขบคิด แต่พาลต้องครุ่นคิดอยู่ทุกเวลา
มนุษย์ไม่มีทางข่มกลั้นความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไว้ได้ตลอดกาลนาน
…นี่เองบางทีเป็นการเจ็บปวดประการหนึ่งในหลายๆประการของชีวิตคนเรา…”

“…ชั่วชีวิตมนุษย์…สิ่งที่บันดาลให้หดหู่ รันทด มิใช่การจำพราก…หากเป็นการอยู่ร่วม
เพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้…”

“…สวยงามเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น มีแต่ความจริง จึงเป็นนิรันดร์
…แต่ก็มีคนว่าเราเพียงสามารถกุมช่วงเวลาที่สวยงามเพียงชั่ววูบไว้ได้ก็พอแก่ใจแล้ว
ความจริงที่เป็นนิจนิรันดร์ทิ้งให้เป็นนิจนิรันดร์ต่อไป เราไม่แยแสสนใจเลย…”

“…ความรักแท้จริงแล้วเป็นอารมณ์ความรู้สึกระดับพื้นฐานชนิดหนึ่งของมนุษยชาติ
ทั้งเป็นชนิดที่เก่าแก่ที่สุดด้วย..หากปราศจากความรัก ก็จะไม่มีมนุษยชาติ…”

“…ความรักเป็นสิ่งงดงาม งดงามประหนึ่งดอกกุหลาบ แต่ทว่ามันมีหนาม…
กุหลาบที่ไร้หนามในโลกนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือมิตรภาพ…”

“…เมื่อคิดเสพสุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องเตรียมใจสำหรับกล้ำกลืน
ความกลัดกลุ้มและปวดร้าวจากความรักด้วย…”

“…คนเรามีแต่ตอนคิดใคร่จะได้ที่สุด จึงหวาดกลัวจะสูญเสียเป็นที่สุด ความรู้สึกที่
บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายเยี่ยงนี้ ก็เป็นจุดอ่อนหนึ่งในจำนวนมากหลายของมนุษย์เรา
ที่น่าเศร้าคือท่านยิ่งรุ่มร้อนปรารถนาจะได้ความหวังจะสูญเสียก็ยิ่งมากมาย…”

“…ในโลกความจริง มีเรื่องอับจนปัญญาอยู่มากหลาย มิว่าผู้ใดต่างมิอาจเหนี่ยวรั้ง
ขัดขืนได้…เยี่ยงนี้แม้เจ็บปวดรันทด แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องคิดหาวิธีมาสลัดความ
ความเจ็บปวดรันทดของตัวเองออกไปให้ได้…”

“…โชคและเคราะห์ ความจริงพิสดารยิ่ง หากท่านพบพานเรื่องเคราะห์ร้าย
อย่าได้ตัดพ้อ ตำหนิ อย่าได้ท้อแท้ แม้นับว่าท่านถูกเคราะห์จู่โจมจนล้มลงก็หาเป็นไร
ไม่ ขอเพียงยังมีชีวิต ท่านก็ต้องยังมีเวลาทรงกายขึ้นยืนได้…”

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author