::: ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้าใจสู้ :::

::: ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้าใจสู้ :::

น้ำตาฉันไหล…

ใช่, ฉันร้องไห้ขณะนั่งดูวอลเลย์บอลท้ายเซ็ตสาม หัวใจฉันเต้นถี่ขณะดูเซ็ตสี่และยิ้มออกมาได้เมื่อเราได้เซ็ตนี้เพราะมันคือเครื่องยืนยันว่าเรายังไม่แพ้และได้โอกาสอีกครั้ง แล้วหัวใจฉันก็เต้นไม่เป็นส่ำเมื่อถึงช่วงท้ายเกมเซ็ตห้า รู้สึกเหมือนหัวใจถูกมือใหญ่ยักษ์ที่มองไม่เห็นบีบจนปวดตุบๆ — ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าตอนนั้นพวกเธอรู้สึกยังไง กดดันแค่ไหน และในหัวคิดอะไรอยู่

แล้วน้ำตาฉันก็ไหลอีกครั้งตอนเห็นรอยยิ้มของนักกีฬาทุกคนหลังเอาชนะทีมเกาหลีแบบหืดขึ้นคอไป 3-2 เซ็ต, มันเป็นน้ำตาแห่งความปีติ ฉันเป็นคนอ่อนไหวแบบนี้แหละเบื่อตัวเองเหมือนกัน

แวบหนึ่งฉันคิด, ในขณะที่มี “ขยะสังคม” กลุ่มหนึ่งทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกหดหู่ด้วยการถ่ายทอดสดดอกเตอร์ท่านหนึ่งเอาปืนจ่อหัวตัวเองกว่าหกชั่วโมงออกอากาศไปทั่วประเทศ ก่อนจบลงด้วยโศกนาฏกรรมตามที่เป็นข่าวเมื่อสองวันก่อน

วันนี้คนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งได้ชุบชูใจที่ห่อเหี่ยวสิ้นหวังของคนไทยทั้งชาติให้กลับมาเต้นต่อด้วยความลิงโลด, อิ่มเอม และมีความหวังอีกครั้งด้วยหัวใจเพชร หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของพวกเธอ ทั้งที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำชนิดที่ลุ้นยังไงก็ไม่น่าขึ้น (โดนนำไปก่อน 2 เซ็ตแรก)

แต่สุดท้ายพวกเธอก็พิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ถ้าใจสู้ ด้วยการพลิกกลับมาเอาชนะเกาหลีได้แบบ “ใสสะอาด” พวกเธอได้สู้อย่างสมศักดิ์ศรีของนักกีฬาอย่างแท้จริง เชื่อว่าชัยชนะในวันนี้คงเรียกความมั่นใจและศรัทธาต่อกีฬาที่พวกเธอรักให้กลับมาฟูฟ่องในใจอีกครั้งหลังจากถูกชาติที่ได้ชื่อว่าศิวิไลซ์ที่สุดประเทศหนึ่งในโลกอย่างญี่ปุ่นปล้นชัยชนะไปแบบหน้าด้านๆเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

เกมแข่งขันในวันนี้คงไม่ใช่แค่เกมที่จบแล้วกองเชียร์ได้แค่ความสะใจ, ดีใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ ฉันเชื่อว่าเราทุกคนที่ได้นั่งเชียร์ นั่งลุ้น นั่งเอาใจช่วยอยู่หน้าจอ หรือแม้แต่คนที่คอยฟังข่าวคงได้เรียนรู้อะไรจากเกมในครั้งนี้ไม่มากก็น้อย

ในสนามฉันได้เห็นความสามัคคีแผ่กระจายไปทั่ว ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเรื่องพื้นฐานที่ต้องมี ใครๆก็รู้ว่าเราจะผ่านทุกปัญหาไปได้ก็ด้วยการทำงานเป็นทีมเวิร์ก ฉันเห็นการให้อภัย ไม่มีการกล่าวโทษจากโค้ชเมื่อลูกทีมทำผิดพลาด มีแต่คำพูดให้กำลังใจ และมองหาจุดแก้ไขเพื่อแก้เกมให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ฉันยังเห็นการรู้หน้าที่ตัวเองของผู้เล่นแต่ละคน ความมุ่งมั่นและอดทน ไม่ย่นระย่อต่ออุปสรรคนานา ไม่ยอมยกธงขาวแม้ว่ามันจะง่ายกว่าการยืนหยัดกัดฟันสู้ ทุ่มเทหมดหน้าตักเหมือนไม่มีอะไรจะเสียจนเฮือกสุดท้าย จนพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ถ้าใจสู้ — ความมุมานะและอดทนให้ผลหอมหวานในบั้นปลายเสมอ

ขอบคุณทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยทุกคนที่ทำให้คนไทยมีความสุขและมีความหวัง ขอบคุณที่ช่วยย้ำว่า

ไม่มีอะไร “อ่อนแอ” และ “แกร่ง” กว่าใจของคนอีกแล้ว, อยู่ที่ว่าเราจะเลือกยืนอยู่ฝั่งไหน…

ป.ล. ฉันชอบภาพนี้ (เครดิตภาพจากอินเทอร์เน็ต คนละชุดกับวันนี้) สังเกตดีๆทุกคนทาเล็บเป็นสีธงชาติไทย เพราะพวกเธอยึดเอาชาติเป็นที่ตั้ง มองความคาดหวังของคนทั้งชาติเป็นแรงผลักดันให้ถึงหลักชัย, ชัยชนะในวันนี้จึงโคตรมีความหมาย

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author