::: รอยร้าวบนกำแพงถึงรอยร้าวในใจ :::

::: รอยร้าวบนกำแพงถึงรอยร้าวในใจ :::

เมื่อวานฉันเพิ่งรู้ตัวว่าถูกเพื่อนคนหนึ่งในเฟซบุ๊กหลอก (จริงๆก็โดนหลอกทุกคนที่อยู่ในลิสต์เธอ) แต่ละวันเธอจะอัปสเตตัสเรียกความสนใจจากเพื่อนร่วมลิสต์ ทั้งไลฟ์สไตล์แบบฮิปสเตอร์, การแต่งตัวแบบเก๋ๆ ชิคๆ, ชีวิตสุดหรูน่าอิจฉา, การกินอยู่ที่ใครเห็นก็ต้องซี้ดปาก และผลงานศิลปะสุดเจ๋งหลายสไตล์ แต่ความมาแตกว่าทุกอย่างที่เธอโพสต์บนเฟซบุ๊กเกินครึ่งคือความเฟค, เธอขโมยผลงานคนอื่นมาเคลมว่าเป็นของตัวเองหน้าตาเฉย

ที่ผ่านมา, อย่างน้อยก็ปีนี้ เธอแทบไม่เปิดเผยหน้าตาให้เราเห็น ที่เห็นคือเธอเอาภาพคนอื่นจากเว็บไซต์เมืองนอกมาตัดหัวออกเหลือแต่คอลงมาแล้วโพสต์หลอกว่านี่คือเธอ

เรารู้จักกันมากว่าห้าปี รู้สึกดีๆต่อกันมาตลอด ช่วยเหลือกันเท่าที่ช่วยได้ แต่ไม่เคยเจอตัวกันเป็นๆ จะว่าไปฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรจากความเฟคของเธอหรอก นอกจากเสียความรู้สึก ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้วนเวียนอยู่ในวงจรชีวิต, ช่างเถอะ ทุกอย่างจบและเป็นไปในแบบที่มันควรจะเป็นแล้ว — แค่นี้เธอก็คงเหนื่อยน่าดูกับการพยายามสร้างทุกอย่างมาถมปมด้อยในใจตัวเอง

จากเหตุการณ์นี้รวมทั้งเหตุการณ์อื่นๆที่เคยเจอมาทำให้ฉันสงสัยว่า ในชีวิตหนึ่งเราต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะ “รู้จัก” ใครคนหนึ่ง “จริงๆ” นะ หนึ่งปี, สองปี, ห้าปี, สิบปี หรือทั้งชีวิต — หรือกับบางคนทั้งชีวิตก็ไม่พอ

ฉันสงสัยต่อ, แล้วสำหรับบางคนล่ะ คนที่เราคิดว่าเราต่างสนิทกัน ไว้ใจ ให้ใจ ไม่เคยคิดระแวง เพราะเราเอาความรู้สึกตัวเองเป็นมาตรวัด เราจริงใจต่อเขา เขาก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับเราแหละ

แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นว่าเรารู้สึกสนิทกับเขาฝ่ายเดียว เขาไม่เคยคิดแบบเดียวกันเลย

คำถามที่ตามมาคือ แล้วที่ผ่านมาคืออะไร ที่ทำดีต่อกันนั่นคือเฟคใช่ไหม, ที่เจ็บสุดคือ ทำไมหลอกเราได้เนียนเหลือเกิน ทำไมเราไม่เคยเอะใจ รู้ตัวอีกทีคือถูกแทงข้างหลังจนพรุน

ทั้งที่รู้เต็มอกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเท่าจิตใจคน ฉันก็ยังเชื่อว่าความจริงใจจะชนะทุกสิ่ง, แน่นอนว่าฉันคิดผิดถนัด

ฉันเคยได้ยินมาว่า “มิตรภาพบานยากแต่หุบง่าย” มันใช่มาก ยิ่งโตยิ่งเข้าใจ กว่าเราจะไว้ใจใครมันไม่ง่าย ถ้าเรารักใครเราจะทุ่มเท แต่ถ้าใจเราถูกทำให้เจ็บและเป็นแผลเราจะจำ, จำแม่นด้วย — แน่ละ อะไรที่มันร้าวแล้วมันยากจะประสานให้เหมือนเดิม, มิตรภาพเองก็เช่นกัน

ในโลกนี้คงไม่มีอะไรที่ถูกทำลายแล้วทำลายเลยเหมือน “ความไว้ใจ” อีกแล้ว

ป.ล. ภาพนี้ฉันถ่ายจากกำแพงหลังบ้าน เห็นรอยร้าวนี้แล้วคิดถึงรอยร้าวในใจ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author