Laundry :: ชาวดาวอังคารเรียกอะไรไม่รู้ แต่ชาวโลกเรียกว่า “ความรัก”

ชาวดาวอังคารเรียกอะไรไม่รู้ แต่ชาวโลกเรียกว่า “ความรัก”

เราทุกคนต่างต้องเคยมีประสบการณ์ เดินเข้าไปในร้านค้าที่มีแต่ของแพงเกินตัว ร้านค้าที่เต็มไปด้วยข้าวของที่เรารู้ซึ้งว่า ไม่มีทางซื้อได้ นอกจากจินตนาการเอา เวลาเจอประสบการณ์แบบนี้ บางคนก็กล่าวโทษราคาข้าวของแพงเกินไป บางคนโทษตนเองยากจน แต่ถ้าคิดได้ซะว่า “ของนั้นไม่ใช่ของๆเรา” อาการกล่าวโทษ หรือน้อยอกน้อยใจในตัวเองก็คงไม่เกิด
ที่จริงแล้ว ความคิดเรื่อง“ของๆเรา” นี้ ใช้ได้กับทุกเรื่อง…

ชีวิตคงจะง่ายกว่านี้มาก หากเรารู้ว่า อะไรบ้างที่เป็นของๆ เรา,ที่ไหนคือที่ของเรา,ใครคือคนของเรา,อะไรคือการงานของเรา

ที่จริงแล้ว ชีวิตจะง่ายกว่านี้มากเลย หากเรายอมรับได้ว่า อะไรคือชีวิตของเรา และอะไรคือหัวใจของเรา…

Laundry ผลงานกำกับฯ และเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรกของ จุนอิจิ โมริ ที่ผ่านงานเขียนบทโทรทัศน์และกำกับละครทีวี.มานานหลายปี ก่อนที่บทภาพยนตร์เรื่อง Laundry ของเขาได้รับเลือกจาก Sundance NHK International Filmmaker Award 2000 จนได้สร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่จุนอิจิลงมือกำกับฯเอง

เทรุ (โยสุเกะ คูโบซูกะ) เด็กหนุ่มที่เคยประสบอุบัติเหตุในวัยเด็ก เทรุมีแผลเป็นที่หัว แต่ใครๆ ก็พาลคิดว่า เขามีแผลเป็นที่สมองด้วย เทรุทำงานเฝ้าร้านซักผ้าหยอดเหรียญ งานของเขาไม่ค่อยนับเป็นงานเท่าไร เพราะแค่เปิด-ปิดร้าน ทำความสะอาดและคอยมองไม่ให้ใครขโมยของผู้คนที่มาร้านซักผ้าหยอดเหรียญต่างก็ดูบ๊องส์ๆ อย่าง นักมวยที่ไม่เคยชนะเลย เวลาแพ้มาก็ชอบมุดไปอยู่ในเครื่องซักผ้า, ผู้หญิงที่ชอบถ่ายรูป วันๆคุยแต่เรื่องถ่ายรูป ,ชายแก่ที่ซักกางเกงในด้วยเครื่องซักผ้าทุกวัน ปากก็พร่ำด่าลูกสะใภ้ที่ไม่ยอมซักให้

ถ้าเทียบกับบรรดาลูกค้าทั้งหลายแล้ว พี่สาว คนสวยเศร้าๆ ที่ชอบลืมเสื้อไว้ในเครื่องซักผ้า นับว่า ดูปกติที่สุด เสียแต่เธอชอบลืมเสื้อไว้ให้เทรุเอาไปคืนอยู่เรื่อย

เทรุ เคยตามเอาเสื้อไปคืนเธอครั้งหนึ่ง แต่เธอก็ลืมไว้อีก หนนี้เทรุต้องเดินทางไกลเพื่อเอาเสื้อไปคืนให้เธอ ด้วยเหตุผลว่า เพราะมันไม่ใช่ของๆ เขา

เธอชื่อ มิซูเอะ(โค ยูกิ) ผู้หญิงที่มีความฝันเล็กๆ แค่อยากทำงานร้านดอกไม้ในโตเกียว แต่ชีวิตต้องมาผิดพลาดเพราะเธอไปตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนที่ทำให้หัวใจของเธอเป็นแผล
ตั้งแต่สูญเสียความเชื่อถือในความรักไป มิซูเอะก็ชอบขโมยข้าวของต่างๆ ที่เธอคิดว่า ตัวเองสมควรได้มัน

จนเมื่อเทรุเอาเสื้อที่ซักจนเก่าไปคืนมิซูเอะ ถึงเสื้อจะเก่า จะเปื่อย เพราะเทรุซักทุกวัน แต่มันก็สะอาด และไร้รอยเปื้อน ด้วยเหตุนี้ มิซูเอะ- ผู้หญิงที่มีแผลที่หัวใจ จึงตัดสินใจอยู่ร่วมกับ เทรุ- ผู้ชายที่มีแผลเป็นที่สมอง

“เราจะทำยังไงต่อไปดี?” วันหนึ่ง มิซูเอะถาม
“เราทำได้แน่ ถ้าเราสองคน อยู่ด้วยกัน” เทรุตอบ….

ครั้งหนึ่ง เทรุกับมิซูเอะไปทำงานปล่อยนกพิราบในพิธีแต่งงาน พ่อเจ้าสาวเกิดกล้ำน้ำตาไว้ไม่อยู่ปล่อยโฮออกมากลางงาน เจ้าสาวก็พาลร้องไห้ไปด้วย นกพิราบก็ไม่ได้ปล่อยเพราะเทรุมัวแต่ปรบมือ แต่ความผิดพลาดก็ทำให้การแต่งงานนั้นเป็นที่จดจำ

จะว่าไปแล้ว บ่อยครั้งที่ความผิดพลาดทำให้ชีวิตน่าประทับใจขึ้น คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยคิดแบบนั้น แต่เทรุทำให้มิซูเอะคิด

ครั้งหนึ่ง มิซูเอะ พยายามจะกระโดดข้ามแอ่งน้ำตื้นๆ ซึ่งเธอรู้สึกว่า มันลึกเหมือนหุบเหวจนเธอกลัวจะข้ามไม่พ้น พอมีเทรุยืนดูอยู่ข้างๆ มิซูเอะก็กระโดดสุดแรงข้ามแอ่งน้ำตื้นๆ ของเธอจนพ้น

ที่จริง เมื่อมิซูเอะกระโดดพ้นแอ่งน้ำได้ ดูๆไปแล้ว เทรุออกจะดีใจกว่าเธอเสียอีก

คืนหนึ่ง เทรุ เล่านิทานให้มิซูเอะฟัง เรื่องของชายผิวปากที่ชีวิตมีความสุขครั้งใดเป็นต้องผิวปาก แต่เทรุจำตอนจบของนิทานไม่ได้ เขาไม่รู้ว่า มันจบด้วยความสุข หรือความเศร้า เทรุรู้แค่ว่า หลังจากผ่านเรื่องพลัดพราก สูญเสียของรัก เรือแตกจมกลางทะเลมาแล้ว ชายคนนั้นยังผิวปากอยู่

เทรุคิดว่า ชายผิวปากคงดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่…

อันที่จริง เทรุกับมิซูเอะไม่รู้หรอกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขาทั้งคู่ ควรเรียกว่าอะไร? แต่ก็มีคนบอกพวกเขา ว่า

“อย่างนี้น่ะ ชาวดาวอังคารเรียกอะไรไม่รู้ แต่ชาวโลกเรียกว่า “ความรัก” ”

จะว่าไปแล้ว ทุกชีวิตล้วนมีแผล…แผลเป็นที่ไม่รู้เมื่อไรจะหาย

แต่ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกันนี้ มีความจริงอยู่ว่า ไม่มีแผลเป็นไหนที่ไม่จาง ถ้าผ่านกาลเวลา ไม่มีรอยเปื้อนใดที่ซักไม่ออก ถ้าซักไปเรื่อยๆ และไม่มีความผิดพลาดใดที่ไถ่ถอนไม่ได้ ถ้าได้รับการให้อภัย

 

Laundry หยิบเอาเรื่องราวความรักของผู้คนที่ชีวิตขาดพร่องมาผูกเป็นภาพยนตร์รัก โรแมนติด ถ่ายทำสวยงาม เพลงไพเราะ เนื้อเรื่องเรียบง่าย แต่วิธีการบอกเล่าประทับใจ คล้ายดูการ์ตูนชวนฝันสำหรับเด็ก แต่กลับมีเนื้อหาลึกซึ้งแบบคนที่ผ่านโลกมาแล้ว

วิธีเล่าเรื่องของ Laundry คล้ายการ์ตูนสามช่องจบ สอดแทรกทุกอารมณ์ ทั้งสนุก ซาบซึ้ง ตลกปนๆ กันไป บอกไม่ได้ว่า ฉากไหนเด่น ฉากไหนสำคัญ แต่เมื่อทุกเหตุการณ์สั้นๆ เรียงร้อยอยู่ด้วยกันจนจบก็ได้เรื่องเล่าเรียบง่ายที่มีเสน่ห์น่ารักแทรกอยู่ คล้ายเป็นการรวมกันของเรื่องราวที่ไม่สำหลักสำคัญอะไร แต่ให้ความรู้สึกอิ่มเอมเมื่อดูจบ

อาจเพราะโลกนี้มีข้าวของเยอะเกินไป มนุษย์เราจึงตกเป็นทาสของความรู้สึกขาดพร่องอยู่ตลอดเวลา โลกทั้งโลกเต็มไปด้วยเรื่องราวของความขาดแคลน เราทุกคนต่างรู้สึกขาดหาย เว้าวิ่น โลกที่เราอยู่จึงกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยข้าวของที่เราอยากได้แต่ไม่เคยได้ แทนที่จะเป็นโลกที่เรารู้สึกสบายอก สบายใจที่ได้มี ได้อยู่ ได้ยืนอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน
Laundry หนังที่บอกเล่าเรื่องราวเรียบง่าย เกี่ยวกับข้าวของๆใครก็เหมาะกับคนๆ นั้น“ของ”ที่เป็นของใครของมัน ชีวิตใครชีวิตมัน เปรียบเทียบกันไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะน้อยอกน้อยใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อแย่งเอามาเป็นของตัว

ในโลกที่เต็มไปด้วยความขาดพร่องแบบนี้ไม่แปลกหรอกที่จะมีคนแบบมิซูเอะ คนที่อยากได้อะไรก็หยิบฉวย ขโมยมาเพราะเธอคิดว่า ตัวเองสมควรได้

แต่สำหรับเทรุ ไอ้เรื่องข้าวของนี้ คุณยายเคยสอนเขาไว้ว่า“ของที่เหมาะกับคนๆ หนึ่ง อาจไม่เหมาะกับคนอีกคน”

ตอนท้ายของหนัง มิซูเอะถูกตำรวจจับเพราะขโมยของ เทรุเสียใจมาก ไม่ใช่แค่เพราะเขาจะต้องอยู่ตัวคนเดียว แต่เพราะความปรารถนาอย่างเดียวในชีวิตเขาก็คือ คอยดูไม่ให้คนขโมยของ

เช้าตรู่ วันที่มิซูเอะพ้นโทษออกมาจากคุก เธอนั่งรถเมล์ประจำทางไปอย่างเดียวดาย เธอได้เห็นชีวิตผู้คนยามเช้าเริ่มต้นชีวิตประจำวัน และได้พบเทรุ –ชายร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ที่ยังยืนยันความจริง ข้อเดิมกับเธออีกครั้ง ว่า

รอยเปื้อนซักได้ ชีวิตก็”ซักได้”…
อย่างที่บอก ชีวิตเราจะง่ายกว่ามาก ถ้าหัวใจเรายอมรับเรื่องง่ายๆ พื้นๆ ได้ว่า
อะไรบ้าง ที่เป็นของๆ เรา และอะไรไม่ใช่…

……………………………………………………..

Laundry : กำกับฯ และเขียนบทภาพยนตร์ : จุนอิจิ โมริ / กำกับภาพ :โคโซ ชิบาซากิ / ลำดับภาพ : ฮิโรชิ มัทซูโอะ / กำกับศิลป์ : ฮิซาชิ ซาซากิ/ดนตรีประกอบ : เซนทาโร่ วาตานาเบะ / แอนนิเมชั่น : มายา แม็กซ์ / นำแสดง : โยสุเกะ คูโบซูกะ, โคยูกิ , ทาคาชิ นาอิโตะ ฯลฯ

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author