::: ถ้าเพียงเราจะเศร้าแทนกันได้ :::

::: ถ้าเพียงเราจะเศร้าแทนกันได้ :::

นอกจากการเสียชีวิตของปอ-ทฤษฎีแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการสูญเสียคนดังจากทุกมุมโลก หนึ่งในนั้นคือเรเน่ แองเจลิล สามีคู่ทุกข์คู่ยากของเซลีน ดิออน นักร้องดีว่าเบอร์ต้นๆของโลก — นักร้องในดวงใจของฉัน

หากวัดจากระยะห่างของความสัมพันธ์ฉันไม่ควรเศร้า, แต่ความจริงฉันเศร้ากับข่าวนี้ในระดับที่ตัวเองยังแปลกใจ อาจเป็นเพราะชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของคนที่ฉันรักถูกกฎของธรรมชาติมาพรากไป (หลังจากนั้นสองวันพี่ชายของเธอก็เสียชีวิตตามไปอีกคน), ฉันนึกภาพตัวเองไม่ออกว่าถ้าฉันเป็นเธอฉันจะรับมือกับความสูญเสียนี้ยังไง

ฉันรู้จักเซลีน ดิออน (แก๊งฉันเรียกว่า “อีป้าเหี่ยว”) จากเพลง My heart will go on ซึ่งเป็นเพลงประกอบหนังเรื่องไททานิกเหมือนหลายๆคน, แต่ฉันรักผู้หญิงคนนี้ตอนมีโอกาสได้ดูดีวีดีไลฟ์คอนเสิร์ตที่ลาสเวกัสเมื่อปี 2008 (มีทั้งในส่วนที่เป็นคอนเสิร์ตและเบื้องหลัง) ฉันเปิดดูคอนเสิร์ตนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบจำไดอะล็อกได

เพลงของเซลีนติดอันดับหนึ่งในชาร์ตชีวิตที่ฉันเปิดฟังบ่อยที่สุด เวลาฉันรู้สึกแย่จากเรื่องอะไรก็ตาม เสียงเพลงของเธอจะกล่อมให้ฉันสงบลงได้ แถมเพลงของเธอยังเป็นสะพานมิตรภาพเชื่อมให้ฉันได้รู้จักเพื่อนๆที่น่ารักอีกหลายคน, คนที่รักเธอเหมือนที่ฉันรัก — นี่คือเหตุผลที่ฉันรักเซลีน ดิออนจนถึงทุกวันนี้

นอกจากภาพร้องเล่นเต้นโชว์สุดตระการตาบนเวทีคอนเสิร์ตแล้ว ภาพที่ฉายให้ฉันดูผ่านจอทีวีซ้ำๆตามจำนวนครั้งที่ฉันเปิดดูคือภาพของเซลีนอยู่กับครอบครัวไม่ว่าจะเป็นสามีและลูกชายวัยกำลังซน พ่อแม่และบรรดาพี่ๆ (เธอเป็นลูกคนเล็ก) — ความสุขในจออวลออกมากระทบเลนส์ตาก่อนจะแผ่ซ่านลงมาที่ใจให้ฉันอิ่มเอิบตามไปด้วย

และภาพที่ฉันเห็นจนชินตาแทบจะทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวคือเรเน่ สามีผู้ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ชักนำเธอเข้าวงการตั้งแต่อายุ 12 ปี (ตอนนี้เธออายุ 47 ปี) — เรเน่เป็นยิ่งกว่าเงาของเซลีนเลยก็ว่าได้

เขาคือทั้งชีวิต คือโลกทั้งใบ คือลมหายใจอีกครึ่งหนึ่งของเธอ

วันนี้เขาล่วงหน้าไปรอเธออยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่ที่ไม่ว่าโรคภัยหรือใครก็ทำร้ายเขาไม่ได้อีกแล้ว

ในภาพคือตอนจัดงานศพ เซลีนส่งสัญลักษณ์ให้เรเน่เป็นครั้งสุดท้าย ตัว L และ V นี้เป็นซิกแนลที่ทั้งคู่มักส่งให้กันเสมอตลอดระยะเวลาที่เป็นเงาของกันและกันมาร่วมหลายปี มันอาจจะหมายถึง Love+You, Love+Us, Love+We หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทั้งคู่รู้กันอยู่สองคน

แวบแรกที่เห็นภาพนี้ความเศร้าก็เข้าจู่โจมฉัน แค่คิดว่าต่อจากนี้เซลีนจะไม่ได้ส่งซิกนี้อีกแล้ว รู้ตัวอีกทีฉันก็นั่งน้ำตาไหลเงียบๆคนเดียวที่โต๊ะทำงา

ฉันเศร้า, เพราะครึ่งหนึ่งของชีวิตของคนที่ฉันรักถูกกฎธรรมชาติพรากไป ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากแบ่งเบาความเศร้า ณ ขณะนี้ของเธอมาไว้บ้าง, แม้เพียงสักนิดก็ยังดี

ุ้ถ้าเพียงเราจะเศร้าแทนกันได้ ฉันจะไม่อิดออดเลย

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author