The Intern : ความจริงในชีวิตที่ต้องเจอ

:: ชีวิตมอบทั้งคำปลอบประโลมและโบยตี, อยู่ที่เรียนรู้ ยอมรับ และปรับตัว :::

จะว่าไปแล้วเส้นเรื่องของหนัง The Intern ค่อนข้างเบา เล่าถึง “เบน” ชายวัย 70 ปีผู้เบื่อหน่ายตารางชีวิตแบบเดิมๆในวัยเกษียณที่สมัครเป็นพนักงานฝึกหัดอาวุโสในบริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่กำลังไปได้สวยของ “จูลส์” ผู้บริหารหญิงเลือดใหม่ไฟแรง ด้วยความต่างของวัยและอีโก้ของคนรุ่นใหม่ทำให้ทั้งคู่ต้องจูนกันเยอะ แล้วความโกลาหลปนสนุกก็บังเกิด — แต่! แม้เส้นเรื่องจะเบาแต่หนังก็ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด

The Intern อาจจะไม่ใช่หนังสร้างแรงบันดาลใจกระพือไฟในการทำงานให้ลุกโหมอะไรเทือกนั้นเสียทีเดียว แต่มันคือหนังฟีลกู๊ดโลกสวยที่ทำให้เรามองเห็นความจริงในชีวิตที่ต้องเจอในแต่ละวันผ่านมุมมองของคนสองวัยอย่างเบนและจูลส์ — แอนน์ แฮทอะเวย์ทำให้บทของจูลส์โดดเด่นสวยออร่าสง่าพุ่งทะลุจอเหลือเกิน ส่วนโรเบิร์ต เดอ นีโร ก็ทำให้เบนเป็นคนแก่ที่สมาร์ตและอบอุ่นเวอร์, เป็นคู่ที่เคมีฟิสิกส์ชีวะมะม่วงมะนาวมากๆ

ถ้าดูเอาบันเทิงหนังเรื่องนี้มีครบของนิยามคำว่า “สนุก” ทั้งสดใส ไหลลื่น น่ารัก จังหวะเป๊ะ เป็นธรรมชาติ, หนังตะโกนใส่หน้าเราดังๆตรงไปตรงมาด้วยบทฮาๆป่วงๆจนคนดูขำท้องแข็งและปวดแก้ม เอนดอร์ฟินหลั่งตั้งแต่ต้นจนจบ ฉากเรียกเสียงหัวเราะมาเต็มแทบทั้งเรื่อง เช่น ฉากเบนฝึกกะพริบตาในห้องน้ำ, ฉากนวดให้รางวัล, ฉากปลอบสาว, ฉากพนักงานหญิงวัย 65 ขับรถไปรับจูลส์, ฉากบุกขโมยคอมพิวเตอร์ (ฉากนี้พีคสุดแล้ว) ฯลฯ, ลูกสาวตัวน้อยของจูลส์จะทำให้คุณอมยิ้มกับความน่ารักสดใสในทุกฉากที่เธอปรากฏตัว — แน่ละ มันเดินเรื่องตามสไตล์หนังสูตร แต่เป็นสูตรที่กลมกล่อมลงตัว (สำหรับฉัน)

ถ้าดูเอาสาระก็มีไม่น้อย, หนังกระซิบบอกเราว่าชีวิตคือการปรับตัวตลอดเวลา ขอแค่ใฝ่รู้ไม่มีใครแก่เกินเรียน, การมีไฟในใจจะทำให้สนุกกับงานทุกอย่างที่ทำ, ความสุภาพนอบน้อมจะทำให้คุณเอาชนะอีโก้ของคนอื่นและได้รับความไว้วางใจ, การรู้ว่าอะไรควรไม่ควรจะทำให้คุณได้เปรียบคนอื่น, แม้คุณจะมั่นใจว่าตัวเองคือหนึ่งในตองอู แต่การมีที่ปรึกษาที่ผ่านโลกมาเยอะกว่าจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ผิดพลาดน้อยลง, อย่าดูแคลนและชิงตัดสินคนอื่นเพียงเพราะภาพภายนอก เพราะเอาเข้าจริงเขาอาจมีของจนคุณนึกไม่ถึง, ชีวิตคือความสมดุล งานอาจจะสำคัญก็จริง แต่อย่าลืมว่าครอบครัวก็สำคัญ อย่าบ้างานจนละเลยคนที่อยู่ข้างหลัง มันจะมีความหมายอะไรถ้าคุณยืนอยู่บนยอดพีระมิดแห่งความสำเร็จแต่ไร้คนที่คุณรักและรักคุณร่วมชื่นชมอยู่ข้างๆ, การให้อภัยไม่ใช่แค่ทำให้ความพันธ์ถูกซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลดล็อกให้ตัวเราเองก้าวเดินต่อไปได้ข้างหน้าอีกด้วย

ที่สำคัญ (ซึ่งฉันชอบมาก) คือหนังบอกเราว่า ชีวิตมอบทั้งคำปลอบประโลมและโบยตีเราเสมอ เดี๋ยวสุขสลับเศร้า เดี๋ยวหัวเราะร่าน้ำตาริน เดี๋ยวสับสนปนเข้าใจ อยู่ที่เราแล้วละว่าจะเปิดใจเรียนรู้ ยอมรับ และปรับตัวแค่ไหน แต่ทั้งหมดคือประสบการณ์ที่จะหล่อหลอมให้เราเติบใตเป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้น, อย่างน้อยก็เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน

The Intern จึงเป็นหนึ่งในหนังที่ฉันรักที่สุดในปีนี้…

คุยกันตรงนี้เลยค่ะ

You might also like More from author